Lenovo ThinkStation P410 User guide [th]

คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ประเภทเครื่อง: 30B2 และ 30B3
หมายเหตุ: ก่อนการใช้ข้อมูลนี้และผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุน โปรดแน่ใจว่าได้อ่านและทำความเข้าใจ “โปรดอ่านข้อมูลนี้
ก่อน: ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย” บนหน้าที่ v และ ภาคผนวก G “ประกาศ” บนหน้าที่ 147
ฉบับตีพิมพ์ครั้งที่ห้า (กรกฎาคม 2017)
© Copyright Lenovo 2016, 2017.
ประกาศเกี่ยวกับสิทธิ์แบบจำกัดและได้รับการกำหนด: หากมีการนำเสนอข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ตามสัญญา General Services Administration “GSA” การใช้ การผลิตซ้ำ หรือการเปิดเผยจะเป็นไปตามข้อจำกัดที่กำหนดไว้ในสัญญาหมายเลข GS-35F­05925
สารบัญ
โปรดอ่านข้อมูลนี้ก่อน: ข้อมูลสำคัญ
ด้านความปลอดภัย . . . . . . v
ก่อนใช้คู่มือนี้ . . . . . . . . . . . . . . . . . v
บริการและการอัปเกรด . . . . . . . . . . . . . v
การป้องกันไฟฟ้าสถิต. . . . . . . . . . . . . . vi
สายไฟและอุปกรณ์แปลงไฟ . . . . . . . . . . . vii
สายไฟพ่วงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง . . . . . . . . . vii
เต้าเสียบและเต้ารับ. . . . . . . . . . . . . . viii
อุปกรณ์ภายนอก . . . . . . . . . . . . . . viii
การระบายความร้อนและระบายอากาศผลิตภัณฑ์ . . viii
สภาพแวดล้อมการทำงาน . . . . . . . . . . . . ix
คำชี้แจงข้อบังคับที่เกี่ยวกับเลเซอร์ . . . . . . . . . x
คำชี้แจงเกี่ยวกับแหล่งจ่ายไฟ . . . . . . . . . . . xi
การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา . . . . . . . xi
บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์ . . . . . . . 1
ตำแหน่งของฮาร์ดแวร์ . . . . . . . . . . . . . 1
มุมมองด้านหน้า . . . . . . . . . . . . . 1
มุมมองด้านหลัง . . . . . . . . . . . . . 3
ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ . . . . . . . . . 5
ชิ้นส่วนต่างๆ บนแผงระบบ . . . . . . . . . 6
ไดรฟ์ภายใน . . . . . . . . . . . . . . 8
ป้ายประเภทและรุ่นของเครื่อง . . . . . . . . 9
คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ . . . . . . . . . . 10
ข้อมูลจำเพาะคอมพิวเตอร์ . . . . . . . . . . . 14
การใช้ดิสก์ . . . . . . . . . . . . . . . . . 19
คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ไดรฟ์แบบออปติคัล . 19
การจัดการและจัดเก็บดิสก์ . . . . . . . . 20
การเล่นและการถอดดิสก์ . . . . . . . . . 20
การบันทึกดิสก์ . . . . . . . . . . . . 21
การเชื่อมต่อเครือข่าย . . . . . . . . . . . . . 22
การเชื่อมต่อ Ethernet LAN. . . . . . . . 22
การเชื่อมต่อ LAN ไร้สาย. . . . . . . . . 22
การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่สามารถใช้ Bluetooth
ได้ . . . . . . . . . . . . . . . . . 23
บทที่ 3. คุณและคอมพิวเตอร์ของคุณ . 25
การจัดเตรียมพื้นที่ทำงานของคุณ . . . . . . . . 25
แสงจ้าและการจัดแสงไฟ . . . . . . . . . 25
การหมุนเวียนอากาศ . . . . . . . . . . 25
ตำแหน่งเต้ารับไฟฟ้าและความยาวของสายไฟ. 26
ความสะดวกสบาย . . . . . . . . . . . 26
ข้อมูลการใช้งาน . . . . . . . . . . . . . . . 27
การทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ . . . . . . . . . 31
การบำรุงรักษา . . . . . . . . . . . . . . . 31
การดูแลและการบำรุงรักษาเบื้องต้น. . . . . 31
การบำรุงรักษาที่ดี . . . . . . . . . . . 32
ปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ของคุณเป็นปัจจุบันอยู่
เสมอ . . . . . . . . . . . . . . . . 32
การเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณ . . . . . . . 33
โปรแกรม . . . . . . . . . . . . . . . . . 15
การเข้าถึงโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ของคุณ. . 15 การติดตั้งโปรแกรมที่พร้อมสำหรับการติดตั้ง
(Windows 7 เท่านั้น) . . . . . . . . . . 16
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรม Lenovo. . . 16
บทที่ 2. การใช้คอมพิวเตอร์ของคุณ . . 19
การลงทะเบียนคอมพิวเตอร์ . . . . . . . . . . 19
การตั้งค่าระดับเสียงคอมพิวเตอร์. . . . . . . . . 19
© Copyright Lenovo 2016, 2017 i
บทที่ 4. ความปลอดภัย . . . . . . . . 35
การล็อคคอมพิวเตอร์ของคุณ . . . . . . . . . . 35
การล็อคฝาครอบคอมพิวเตอร์ . . . . . . . 35
การเชื่อมต่อสายล็อคแบบ Kensington . . . 36
การติดตั้งสายล็อค . . . . . . . . . . . 37
การดูและการเปลี่ยนการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัย
ในโปรแกรม Setup Utility . . . . . . . . . . . 38
การใช้รหัสผ่านและบัญชี Windows. . . . . . . . 38
การใช้การตรวจสอบลายนิ้วมือ . . . . . . . . . 39
การใช้สวิตช์ยึดฝาครอบ . . . . . . . . . . . . 39
การใช้ไฟร์วอลล์ . . . . . . . . . . . . . . . 40
การป้องกันข้อมูลจากไวรัส . . . . . . . . . . . 40
ซอฟต์แวร์ Computrace Agent ที่ฝังในเฟิร์มแวร์ . . 41
Trusted Platform Module (TPM) . . . . . . . . 41
Intel BIOS guard . . . . . . . . . . . . . . 41
บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย
และการกู้คืน. . . . . . . . . 61
ขั้นตอนพื้นฐานสำหรับแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ . . . . 61
การแก้ไขปัญหา . . . . . . . . . . . . . . . 62
ปัญหาเกี่ยวกับการเริ่มต้นระบบ . . . . . . 62
ปัญหาเกี่ยวกับเสียง. . . . . . . . . . . 63
บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง. . . . . . 43
การใช้โปรแกรม Setup Utility. . . . . . . . . . 43
การเปิดโปรแกรม Setup Utility . . . . . . 43
การเปลี่ยนโหมดการแสดงผลของโปรแกรม
Setup Utility . . . . . . . . . . . . . 43
การเปลี่ยนภาษาที่แสดงของโปรแกรม Setup
Utility . . . . . . . . . . . . . . . . 44
การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานอุปกรณ์ . . . . 44
การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานคุณลักษณะ Automatic Power On ของคอมพิวเตอร์ . . . 44
การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานโหมดที่สอดคล้อง
กับ ErP LPS . . . . . . . . . . . . . 45
การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการตรวจหาการ
เปลี่ยนแปลงการกำหนดค่า . . . . . . . . 46
การเปลี่ยนการตั้งค่า BIOS ก่อนจะติดตั้งระบบ
ปฏิบัติการใหม่ . . . . . . . . . . . . . 46
การใช้รหัสผ่าน BIOS . . . . . . . . . . 47
การเลือกอุปกรณ์เริ่มต้นระบบ . . . . . . . 49
การปรับเปลี่ยนระดับความเร็วพัดลม . . . . 50
การออกจากโปรแกรม Setup Utility . . . . 50
การอัปเดตและการกู้คืน BIOS . . . . . . . . . 50
การอัปเดต BIOS . . . . . . . . . . . 51
การกู้คืนจากความล้มเหลวในการอัปเดต BIOS 51
การกำหนดค่า RAID . . . . . . . . . . . . . 52
การกำหนดค่า RAID ด้วย Intel RSTe . . . 52 การตั้งค่า RAID แบบด่วนโดยใช้โปรแกรมการ
เข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID
BIOS . . . . . . . . . . . . . . . . 55
ปัญหาเกี่ยวกับซีดีหรือดีวีดี . . . . . . . . 64
ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว . . . . . . . 65
ปัญหาเกี่ยวกับไดรฟ์จัดเก็บ. . . . . . . . 66
ปัญหาเกี่ยวกับ Ethernet LAN. . . . . . . 66
ปัญหาเกี่ยวกับ LAN ไร้สาย. . . . . . . . 68
ปัญหาเกี่ยวกับ Bluetooth . . . . . . . . 68
ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพ . . . . . . . 70
ปัญหาเกี่ยวกับขั้วต่ออนุกรม . . . . . . . 71
ปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ USB . . . . . . . 72
ปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และไดรเวอร์. . . . 72
การวินิจฉัยปัญหา . . . . . . . . . . . . . . 73
ข้อมูลการกู้คืน . . . . . . . . . . . . . . . 75
ข้อมูลการกู้คืนสำหรับ Windows 7 . . . . . 76
ข้อมูลการกู้คืนสำหรับ Windows 10 . . . . 76
บทที่ 7. การติดตั้งหรือการเปลี่ยน
ฮาร์ดแวร์ . . . . . . . . . . 79
การหยิบจับอุปกรณ์ที่ไวต่อไฟฟ้าสถิต . . . . . . . 79
การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบ
คอมพิวเตอร์ . . . . . . . . . . . . . . . . 80
การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ . . . . . . . . 81
อุปกรณ์เสริมภายนอก . . . . . . . . . . 81
ฝาหน้า . . . . . . . . . . . . . . . 81
ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง. . . . . . . . . . . . 82
การ์ด PCI Express. . . . . . . . . . . 84
การ์ด PCI Express แบบ full-length . . . . 86
ไดรฟ์โซลิดสเทต M.2 . . . . . . . . . . 90
โมดูลหน่วยความจำ. . . . . . . . . . . 92
ii คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ไดรฟ์แบบออปติคัล . . . . . . . . . . . 95
ไดรฟ์จัดเก็บในช่องใส่อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบเปิด
จากด้านหน้า . . . . . . . . . . . . . 98
อุปกรณ์ในช่องใส่แบบรวมสำหรับออปติคัล/
อุปกรณ์เก็บข้อมูล. . . . . . . . . . . . 105
แบตเตอรี่. . . . . . . . . . . . . . . 109
สวิตช์ยึดฝาครอบ. . . . . . . . . . . . 110
ส่วนประกอบแหล่งจ่ายไฟ . . . . . . . . 112
ตัวระบายความร้อนและส่วนประกอบพัดลม . . 113
ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์หลัก . . . . . . . . . . 115
ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำรอง . . . . . . . . . . 117
ไดรฟ์โซลิดสเทต . . . . . . . . . . . . 118
การเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เสร็จสมบูรณ์ . . . . . . . . 123
บทที่ 8. การขอรับข้อมูล ความช่วย
เหลือและบริการ. . . . . . .125
เอกสารข้อมูล . . . . . . . . . . . . . . . . 125
การเข้าใช้งานคู่มือผู้ใช้ในภาษาต่างๆ . . . . 125
วิธีใช้ Windows . . . . . . . . . . . . 125
ความปลอดภัยและการรับประกัน. . . . . . 125
คำประกาศเกี่ยวกับการจัดประเภทการส่งออก. . . . 133
ประกาศเกี่ยวกับการแผ่คลื่นอิเล็กทรอนิกส์ . . . . . 133
การจัดทำใบรับรองของคณะกรรมการกลางกำกับ
ดูแลกิจการสื่อสาร. . . . . . . . . . . . 133
เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Eurasian . . . . . . 136
การแจ้งเตือนเสียงของบราซิล . . . . . . . . . . 136
ข้อมูลความสอดคล้องกับวิทยุไร้สายสำหรับเม็กซิโก . 136
ข้อมูลข้อบังคับเพิ่มเติม . . . . . . . . . . . . 137
ภาคผนวก D. ข้อมูล WEEE และการ
รีไซเคิล . . . . . . . . . . .139
ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ WEEE . . . . . . . . . . 139
ข้อมูลการรีไซเคิลของญี่ปุ่น. . . . . . . . . . . 140
ข้อมูลการรีไซเคิลของบราซิล . . . . . . . . . . 141
ข้อมูลการรีไซเคิลแบตเตอรี่สำหรับไต้หวัน . . . . . 141
ข้อมูลการรีไซเคิลแบตเตอรี่สำหรับสหภาพยุโรป . . . 141
ภาคผนวก E. ข้อบังคับว่าด้วยการ
ควบคุมวัตถุที่เป็นอันตราย
เว็บไซต์ Lenovo . . . . . . . . . . . . 126
เว็บไซต์บริการสนับสนุนของ Lenovo . . . . 126
คำถามที่พบบ่อย . . . . . . . . . . . . 126
ความช่วยเหลือและบริการ . . . . . . . . . . . 127
การติดต่อเรียกบริการ . . . . . . . . . . 127
การใช้บริการอื่นๆ . . . . . . . . . . . 128
การซื้อบริการเพิ่มเติม . . . . . . . . . . 128
ภาคผนวก A. ความเร็วของหน่วยความ
จำของระบบ . . . . . . . . .129
ภาคผนวก B. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
ระบบปฏิบัติการ Ubuntu . .131
ภาคผนวก C. ข้อมูลกฎข้อบังคับ. . . .133
(RoHS). . . . . . . . . . . .143
RoHS ของสหภาพยุโรป. . . . . . . . . . . . 143
RoHS ของประเทศจีน . . . . . . . . . . . . 143
RoHS ของตุรกี . . . . . . . . . . . . . . . 144
RoHS ของยูเครน . . . . . . . . . . . . . . 144
RoHS ของอินเดีย . . . . . . . . . . . . . . 144
RoHS ของไต้หวัน . . . . . . . . . . . . . . 144
ภาคผนวก F. ข้อมูลเกี่ยวกับรุ่น
ENERGY STAR . . . . . . .145
ภาคผนวก G. ประกาศ . . . . . . . . .147
เครื่องหมายการค้า . . . . . . . . . . . . . . 148
© Copyright Lenovo 2016, 2017 iii
iv คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

โปรดอ่านข้อมูลนี้ก่อน: ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย

บทนี้ประกอบด้วยข้อมูลด้านความปลอดภัยที่คุณต้องทำความคุ้นเคย

ก่อนใช้คู่มือนี้

ข้อควรระวัง: ก่อนการใช้คู่มือนี้ โปรดแน่ใจว่าได้อ่านและทำความเข้าใจข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ โปรดอ่านข้อมูลในหมวดนี้ และข้อมูลความปลอดภัยใน คู่มือความปลอดภัย การ รับประกัน และการติดตั้ง ที่คุณได้รับพร้อมกับผลิตภัณฑ์นี้ การอ่านและทำความเข้าใจในข้อมูลความ ปลอดภัยนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บของบุคคล หรือความเสียหายกับผลิตภัณฑ์ของคุณ
ถ้าคุณไม่มีสำเนาของ คู่มือความปลอดภัย การรับประกัน และการติดตั้ง อยู่แล้ว คุณสามารถดูในรูปแบบ Portable Document Format (PDF) ได้จากเว็บไซต์ Lenovo สนับสนุนของ Lenovo ยังมี คู่มือความปลอดภัย การรับประกัน และการติดตั้ง และ คู่มือผู้ใช้ ฉบับนี้ในภาษาอื่นๆ ด้วย
®
Support ที่ http://www.lenovo.com/support เว็บไซต์บริการ

บริการและการอัปเกรด

อย่าพยายามซ่อมบำรุงผลิตภัณฑ์ด้วยตนเองหากไม่ได้รับคำแนะนำให้ดำเนินการดังกล่าวจากศูนย์บริการลูกค้าหรือ จากเอกสารประกอบ หากต้องการซ่อมผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ ควรใช้บริการจากผู้ให้บริการที่ผ่านการรับรองเท่านั้น
หมายเหตุ: ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์บางชิ้นสามารถอัปเกรดหรือเปลี่ยนใหม่โดยลูกค้า การอัปเกรดมีให้เป็นทางเลือก เท่านั้น อะไหล่ทดแทนที่ผ่านการรับรองว่าสามารถติดตั้งโดยลูกค้าจะเรียกว่า CRU (Customer Replaceable Unit (ยูนิตที่ลูกค้าสามารถเปลี่ยนได้)) Lenovo มีเอกสารประกอบพร้อมกับคำแนะนำเมื่อถึงส่วนที่ลูกค้าสามารถติดตั้ง อุปกรณ์เสริมหรือเปลี่ยน CRU เมื่อจะติดตั้งหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน คุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งหมดอย่างตั้งใจ สถานะ Off (ปิด) ของไฟแสดงสถานะเปิด/ปิดเครื่องไม่จำเป็นต้องหมายความว่าระดับแรงดันไฟฟ้าภายในผลิตภัณฑ์ นั้นเป็นศูนย์ ก่อนจะถอดฝาครอบต่างๆ ออกจากผลิตภัณฑ์ในขณะที่ต่อสายไฟ ตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งว่าได้ปิด เครื่องและถอดปลั๊กไฟออกจากแหล่งจ่ายไฟต่างๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CRU โปรดดูที่ บทที่ 7 “การติด ตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 79 หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใจ โปรดติดต่อศูนย์บริการลูกค้า
หลังจากถอดสายไฟ แม้จะไม่มีชิ้นส่วนใดๆ ในคอมพิวเตอร์ที่เคลื่อนไหว คุณต้องปฏิบัติตามคำเตือนต่อไปนี้เพื่อความ ปลอดภัย
ข้อควรระวัง:
© Copyright Lenovo 2016, 2017 v
ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวซึ่งอาจเป็นอันตราย ให้นิ้วและส่วนต่างๆ ของร่างกายอยู่ห่างจากชิ้นส่วนต่างๆ เสมอ
ข้อควรระวัง:
ก่อนที่คุณจะเปิดฝาครอบคอมพิวเตอร์ ให้ปิดคอมพิวเตอร์และรอสักครู่จนกว่าคอมพิวเตอร์จะเย็นลง

การป้องกันไฟฟ้าสถิต

แม้ว่าไฟฟ้าสถิตจะไม่เป็นอันตรายกับตัวคุณ แต่ก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับส่วนประกอบและอุปกรณ์เสริมของ คอมพิวเตอร์ได้อย่างมาก การใช้งานที่ไม่ถูกต้องกับชิ้นส่วนที่ไวต่อไฟฟ้าสถิตทำให้ชิ้นส่วนเกิดความเสียหายได้ เมื่อ เปิดหีบห่อของอุปกรณ์เสริม หรือ CRU ห้ามเปิดหีบห่อที่ป้องกันการสถิตที่บรรจุชิ้นส่วนจนกว่าคำแนะนำจะระบุให้คุณ ทำการติดตั้งชิ้นส่วนนั้น
เมื่อคุณทำงานกับอุปกรณ์เสริมหรือ CRU รวมถึงการทำงานกับชิ้นส่วนภายในของคอมพิวเตอร์ ให้ปฏิบัติตามข้อควร ระวังต่อไปนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายจากไฟฟ้าสถิต:
ไม่ควรขยับร่างกายมากนัก เนื่องจากการขยับร่างกายจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตรอบๆ ตัวคุณ
ควรถือส่วนประกอบอย่างระมัดระวังเสมอ ควรจับอะแดปเตอร์ โมดูลหน่วยความจำ และแผงวงจรอื่นๆ ที่บริเวณ ขอบ ห้ามจับที่ตัววงจรโดยตรง
ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้อื่นมาสัมผัสส่วนประกอบต่างๆ
เมื่อคุณติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ไวต่อไฟฟ้าสถิตหรือ CRU ให้นำส่วนป้องกันไฟฟ้าสถิตที่ห่อหุ้มชิ้นส่วนดังกล่าวมา แตะกับแผ่นปิดโลหะที่ยื่นออกมาของช่องว่างหรือผิวโลหะส่วนอื่นๆ ที่เคลือบสีไว้บนคอมพิวเตอร์นานอย่างน้อย สองวินาที การทำเช่นนี้จะช่วยลดไฟฟ้าสถิตในส่วนป้องกันนั้นและร่างกายของคุณได้
หากสามารถทำได้ ให้ถอดชิ้นส่วนที่ไวต่อไฟฟ้าสถิตออกจากส่วนป้องกันแล้วติดตั้งทันทีโดยที่ไม่ต้องวางชิ้นส่วน ดังกล่าวลงบนพื้น หากไม่สามารถทำได้ ให้วางส่วนป้องกันไฟฟ้าสถิตไว้พื้นนุ่มที่ราบเรียบ แล้ววางชิ้นส่วนไว้บน ส่วนป้องกัน
ห้ามวางชิ้นส่วนลงบนฝาครอบคอมพิวเตอร์หรือบนพื้นผิวโลหะ
vi คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

สายไฟและอุปกรณ์แปลงไฟ

ใช้เฉพาะสายไฟและอุปกรณ์แปลงไฟที่ผู้ผลิตของผลิตภัณฑ์นี้ให้มาเท่านั้น อย่าใช้สายไฟ ac สำหรับอุปกรณ์อื่น
สายไฟต้องผ่านการตรวจสอบว่าสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย สำหรับประเทศเยอรมัน ควรใช้ H05VV-F, 3G, 0.75
2
มม.
หรือที่ดีกว่านี้ สำหรับประเทศอื่นๆ ควรใช้สายไฟตามประเภทที่เหมาะสม
ห้ามม้วนสายไฟรอบอุปกรณ์แปลงไฟหรือวัตถุอื่นๆ การกระทำดังกล่าวจะทำให้เกิดความเค้นที่สายไฟในแบบที่อาจ ทำให้สายไฟเกิดรอยย่น หลุดลุ่ย หรือแตกร้าว ซึ่งจะแสดงถึงอันตรายต่อความปลอดภัย
เดินสายไฟในตำแหน่งที่ไม่มีคนเดินเหยียบ เดินสะดุด หรือถูกวัตถุอื่นหนีบทุกครั้ง
ปกป้องสายไฟ และอุปกรณ์แปลงไฟไม่ให้สัมผัสกับของเหลว ตัวอย่างเช่น อย่าวางสายไฟหรืออุปกรณ์แปลงไฟใกล้ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ห้องน้ำ หรือบนพื้นที่ทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดพื้น ของเหลวต่างๆ อาจทำให้ ไฟฟ้าลัดวงจร โดยเฉพาะในกรณีที่สายไฟหรืออุปกรณ์แปลงไฟเกิดความเค้นจากการใช้งานผิดวิธี นอกจากนี้ ของเหลวอาจทำให้เกิดสนิมสะสมที่ขั้วสายไฟและ/หรือขั้วต่ออุปกรณ์แปลงไฟ ซึ่งในที่สุด จะทำให้เกิดความร้อนจัด
ตรวจสอบว่าขั้วต่อสายไฟเสียบแน่นเรียบร้อยเข้ากับเต้ารับแล้ว
ห้ามใช้อุปกรณ์แปลงไฟที่มี pins อินพุตของ ac ผุ หรือมีลักษณะที่แสดงให้เห็นถึงความร้อนเกินขนาด (เช่น พลาสติก บิดงอ) ที่อินพุต ac หรือที่จุดใดๆ บนอุปกรณ์แปลงไฟ
ห้ามใช้สายไฟใดๆ ที่ส่วนปลายของหน้าสัมผัสไฟฟ้าด้านใดด้านหนึ่งแสดงอาการว่าขึ้นสนิมหรือเกิดความร้อนจัด หรือ ตำแหน่งใดๆ ของสายไฟเกิดความเสียหายไม่ว่าจะแบบใดก็ตาม

สายไฟพ่วงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไฟพ่วง เครื่องป้องกันไฟกระชาก เครื่องสำรองไฟ และปลั๊กพ่วงสายไฟที่คุณใช้มีพิกัดกำลัง ไฟตามข้อกำหนดไฟฟ้าของผลิตภัณฑ์นี้ ห้ามใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้มากเกินไป หากใช้ปลั๊กพ่วงไฟฟ้า โหลดไม่ควรเกิน พิกัดกำลังไฟขาเข้าของปลั๊กพ่วง หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโหลดไฟฟ้า ข้อกำหนดไฟฟ้า และพิกัดกำลังไฟขาเข้า โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากช่างไฟฟ้า
© Copyright Lenovo 2016, 2017 vii

เต้าเสียบและเต้ารับ

หากเต้ารับที่จะใช้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชำรุดเสียหายหรือขึ้นสนิม อย่าใช้เต้ารับจนกว่าจะเปลี่ยนใหม่โดยช่างไฟที่ ชำนาญการ
อย่างอหรือดัดแปลงปลั๊กไฟ หากปลั๊กไฟชำรุดเสียหาย โปรดติดต่อผู้ผลิตเพื่อขออะไหล่ทดแทน
อย่าใช้เต้ารับไฟฟ้าร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหรือการพาณิชย์อื่นๆ ซึ่งจะใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมาก มิฉะนั้น แรง ดันไฟที่ไม่เสถียรอาจทำให้คอมพิวเตอร์ ข้อมูล หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้รับความเสียหาย
ผลิตภัณฑ์บางเครื่องใช้ปลั๊ก 3 ขา ปลั๊กประเภทนี้จะเสียบได้พอดีกับเต้ารับไฟฟ้าที่ต่อสายดิน นี่เป็นคุณลักษณะด้าน ความปลอดภัย อย่าทำลายคุณลักษณะด้านความปลอดภัยนี้โดยพยายามเสียบปลั๊กลงในเต้ารับที่ไม่ต่อสายดิน หาก คุณเสียบปลั๊กเข้าเต้ารับไม่ได้ โปรดติดต่อช่างไฟเพื่อขออะแดปเตอร์ปลั๊กไฟที่ผ่านการรับรองหรือเปลี่ยนเต้ารับเป็น ประเภทที่สามารถใช้คุณลักษณะด้านความปลอดภัยนี้ได้ ห้ามใช้งานเต้ารับไฟฟ้ามากเกินไป โหลดของระบบทั้งหมด ต้องไม่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ของพิกัดกระแสวงจรย่อย หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโหลดไฟฟ้าและพิกัดวงจรย่อย โปรด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากช่างไฟฟ้า
ต้องแน่ใจว่าเต้ารับไฟฟ้าที่ใช้มีการเดินสายไฟที่ถูกวิธี เสียบปลั๊กได้ง่าย และติดตั้งใกล้กับอุปกรณ์ อย่าพยายามยืดสาย ไฟในลักษณะที่ทำให้สายไฟเกิดความเค้น
ต้องแน่ใจว่าเต้ารับไฟฟ้ามีค่าแรงดันไฟฟ้าและกระแสที่ถูกต้องสำหรับผลิตภัณฑ์ที่คุณติดตั้ง
เสียบปลั๊กอุปกรณ์เข้ากับเต้ารับไฟฟ้าและถอดออกด้วยความระมัดระวัง

อุปกรณ์ภายนอก

ห้ามเสียบ หรือถอดสายอุปกรณ์ภายนอกใดๆ นอกเหนือจากสาย Universal Serial Bus (USB) ในขณะที่คอมพิวเตอร์ เปิดอยู่ มิฉะนั้นอาจทำให้คอมพิวเตอร์เสียหายได้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ เมื่อปิด คอมพิวเตอร์แล้ว ควรรออย่างน้อยห้าวินาที แล้วจึงถอดอุปกรณ์ภายนอก

การระบายความร้อนและระบายอากาศผลิตภัณฑ์

คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์แปลงไฟ และอุปกรณ์เพิ่มเติมต่างๆ อาจก่อให้เกิดความร้อนได้เมื่อเปิดใช้งานและเมื่อกำลังชาร์จ แบตเตอรี่อยู่ ปฏิบัติตามข้อควรระมัดระวังพื้นฐานต่อไปนี้:
viii คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ห้ามทิ้งคอมพิวเตอร์ของคุณ, อุปกรณ์แปลงไฟ หรืออุปกรณ์เพิ่มเติมให้สัมผัสกับตักหรือส่วนใดของร่างกายเป็น ระยะเวลานานในขณะที่อุปกรณ์กำลังทำงานหรือเมื่อชาร์จแบตเตอรี่อยู่ คอมพิวเตอร์ของคุณ, อุปกรณ์แปลงไฟ และอุปกรณ์เพิ่มเติมต่างๆ อาจมีความร้อนสูงขึ้นบ้างระหว่างการใช้งานปกติ การสัมผัสกับร่างกายเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดความไม่สบายตัว หรือผิวหนังอาจเป็นรอยไหม้ได้
ห้ามชาร์จแบตเตอรี่ หรือใช้คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์แปลงไฟ หรืออุปกรณ์เพิ่มเติมใกล้วัสดุที่สามารถติดไฟหรือใน บริเวณที่อาจเกิดระเบิดได้
ในตัวผลิตภัณฑ์จะมีช่องระบายความร้อน, พัดลม และตัวระบายความร้อนเพื่อการใช้งานอย่างปลอดภัย สะดวก สบาย และไว้วางใจได้ หากวางคอมพิวเตอร์บนเตียง โซฟา พรม หรือพื้นที่ไม่มั่นคง อาจเป็นการปิดกั้น คุณลักษณะนี้โดยไม่ตั้งใจ ห้ามปิดกั้น คลุม หรือปิดคุณลักษณะนี้
ตรวจสอบคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปของคุณว่ามีฝุ่นสะสมอยู่หรือไม่อย่างน้อยทุกสามเดือน ก่อนการตรวจสอบ คอมพิวเตอร์ของคุณ ให้ปิดเครื่อง และถอดสายไฟคอมพิวเตอร์จากเต้าเสียบไฟ จากนั้นปัดฝุ่นจากช่องลม และรู หาก สังเกตเห็นฝุ่นสะสมอยู่ภายนอก ให้ตรวจสอบ และปัดฝุ่นจากภายในคอมพิวเตอร์ รวมทั้งช่องภายในครีบตัวระบาย ความร้อน, ช่องจ่ายไฟ และพัดลม ให้ปิด และถอดสายไฟคอมพิวเตอร์ก่อนเปิดฝาครอบเสมอ หากเป็นไปได้ ให้หลีก เลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์ในบริเวณที่คนเดินผ่านไปมามากเป็นระยะสองฟุต หากต้องใช้คอมพิวเตอร์ใน หรือใกล้บริเวณ ที่คนเดินผ่านไปมามากดังกล่าว ให้ตรวจสอบ และทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ให้บ่อยขึ้น ในกรณีที่จำเป็น
เพื่อความปลอดภัยของคุณ และเพื่อคงประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ กรุณาปฏิบัติตามข้อควรระวังพื้น ฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปของคุณเหล่านี้:
ต้องปิดฝาครอบทุกครั้งเมื่อเสียบปลั๊กไฟคอมพิวเตอร์
ตรวจสอบด้านนอกคอมพิวเตอร์เป็นประจำเพื่อระมัดระวังการเกาะตัวของฝุ่น
เช็ดฝุ่นออกจากช่องระบายอากาศและรูที่ตะแกรง คุณอาจต้องทำความสะอาดคอมพิวเตอร์บ่อยขึ้นหากใช้งานใน พื้นที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นหรือมีคนสัญจรผ่านไปมามาก
อย่าปิดกั้นหรือคลุมช่องระบายอากาศ
ห้ามเก็บ หรือใช้งานคอมพิวเตอร์ภายในเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความร้อนเกินขนาดเพิ่ม ขึ้นได้
อุณหภูมิการไหลเวียนของอากาศภายในคอมพิวเตอร์ไม่ควรเกิน 35°C (95°F)
ห้ามติดตั้งอุปกรณ์กรองอากาศเด็ดขาด มันอาจจะรบกวนการระบายความร้อนที่ทำงานดีอยู่แล้ว

สภาพแวดล้อมการทำงาน

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้คอมพิวเตอร์ของคุณคือ 10°C–35°C (50°F–95°F) โดยมีความชื้นอยู่ ระหว่าง 35% และ 80% หากคุณจัดเก็บ หรือขนย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณในอุณหภูมิต่ำกว่า 10°C (50°F) ปล่อยให้ คอมพิวเตอร์ที่เย็นอยู่ค่อยๆ เพิ่มระดับอุณหภูมิที่เหมาะกับการทำงานมากที่สุดถึง 10°C–35°C (50°F–95°F) ก่อนใช้
© Copyright Lenovo 2016, 2017 ix
งาน กระบวนการนี้อาจใช้เวลาสูงสุดสองชั่วโมง หากไม่สามารถรอให้คอมพิวเตอร์ของคุณมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงระดับที่ เหมาะสมกับการใช้งาน ก่อนที่จะใช้อาจเป็นผลให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ
หากเป็นไปได้ วางคอมพิวเตอร์บนพื้นที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท โดยไม่มีแสงแดดส่องโดยตรง
วางเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น พัดลมไฟฟ้า วิทยุ ลำโพงพลังขับสูง เครื่องปรับอากาศ และเตาไมโครเวฟให้ห่างจาก คอมพิวเตอร์ เนื่องจากสนามแม่เหล็กแรงๆ จากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้สามารถทำลายจอภาพและข้อมูลในไดรฟ์จัดเก็บ ได้
ห้ามวางเครื่องดื่มไว้ด้านบน หรือข้างๆ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ หากของเหลวหกใส่ หรือหกบน คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อยู่ อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือความเสียหายอื่นๆ ได้
ห้ามรับประทานหรือสูบบุหรี่เมื่ออยู่หน้าแป้นพิมพ์ เศษอาหารหรือบุหรี่ที่หล่นใส่แป้นพิมพ์อาจทำให้เกิดความเสียหาย ได้

คำชี้แจงข้อบังคับที่เกี่ยวกับเลเซอร์

ข้อควรระวัง: เมื่อมีการติดตั้งผลิตภัณฑ์เลเซอร์ (เช่น CD-ROM, ไดรฟ์ DVD, อุปกรณ์ใยแก้วนำแสง หรือตัวส่งสัญญาณ) โปรดตระหนักถึงเรื่องต่อไปนี้
ห้ามถอดฝาครอบออก การถอดฝาครอบของผลิตภัณฑ์เลเซอร์อาจเป็นผลให้เกิดการแผ่รังสีเลเซอร์ที่ เป็นอันตรายได้ ไม่มีชิ้นส่วนใดภายในอุปกรณ์ที่สามารถบำรุงรักษาได้
การใช้เพื่อการควบคุมหรือปรับแต่ง หรือดำเนินกระบวนการใดๆ นอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ในที่นี้อาจก่อ ให้เกิดการแผ่รังสีที่เป็นอันตรายได้
x คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
อันตราย
ผลิตภัณฑ์เลเซอร์บางตัวอาจมีไดโอดเลเซอร์ประเภท 3A หรือประเภท 3B ประกอบอยู่ กรุณาคำนึง ถึงสิ่งต่อไปนี้:
การแผ่รังสีเลเซอร์เมื่อเปิดอยู่ ห้ามจ้องลำแสง ห้ามมองเครื่องมือเกี่ยวกับแสงโดยตรง และหลีก เลี่ยงการสัมผัสกับลำแสง

คำชี้แจงเกี่ยวกับแหล่งจ่ายไฟ

ห้ามถอดฝาครอบบนแหล่งจ่ายไฟ หรือชิ้นส่วนใดๆ ที่มีป้ายต่อไปนี้ติดอยู่
มีแรงดันไฟ กระแสไฟ และพลังงานในระดับที่เป็นอันตรายอยู่ในชิ้นส่วนใดๆ ที่มีป้ายนี้ติดอยู่ ไม่มีชิ้นส่วนใดภายใน ส่วนประกอบเหล่านี้ที่สามารถบำรุงรักษาได้ หากคุณสงสัยว่าชิ้นส่วนเหล่านี้อาจมีปัญหา กรุณาติดต่อช่างเทคนิค บริการ

การทำความสะอาดและการบำรุงรักษา

ให้รักษาคอมพิวเตอร์ และสถานที่ทำงานให้สะอาดอยู่เสมอ ปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้นถึงสายไฟก่อนทำความสะอาด คอมพิวเตอร์ ห้ามฉีดสารซักฟอกแบบเหลวที่คอมพิวเตอร์โดยตรง หรือใช้สารซักฟอกที่มีสารติดไฟในการทำความ สะอาดคอมพิวเตอร์ เทผงซักฟอกลงบนผ้านุ่ม จากนั้นถูผิวหน้าของคอมพิวเตอร์
© Copyright Lenovo 2016, 2017 xi
xii คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์

บทนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อต่อไปนี้:
“ตำแหน่งของฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 1
“คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 10
“ข้อมูลจำเพาะคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 14
“โปรแกรม” บนหน้าที่ 15

ตำแหน่งของฮาร์ดแวร์

หมวดนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ของคุณ
หมายเหตุ: ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์อาจแตกต่างจากภาพประกอบเล็กน้อย

มุมมองด้านหน้า

รูปภาพ 1. ขั้วต่อ ตัวควบคุม และไฟแสดงสถานะด้านหน้า
© Copyright Lenovo 2016, 2017 1
1 ปุ่มนำออก/ปิดไดรฟ์แบบออปติคัล
3 ไฟแสดงสถานะการทำงานของไดรฟ์จัดเก็บ 4 ไฟแสดงสถานะเปิด/ปิดเครื่อง
2 ขั้วต่อ USB 3.0 (2)
5 ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
7 ขั้วต่อหูฟัง
1 ปุ่มนำออก/ปิดไดรฟ์แบบออปติคัล
6 ตัวเชื่อมต่อไมโครโฟน
8 ช่องเสียบการ์ด SD
กดปุ่มเพื่อนำออกหรือปิดถาดไดรฟ์แบบออปติคัล
2 ขั้วต่อ USB 3.0
เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับ USB ได้ เช่น แป้นพิมพ์ USB, เมาส์ USB, ไดรฟ์จัดเก็บ หรือเครื่องพิมพ์ เข้ากับขั้ว ต่อนี้
3 ไฟแสดงสถานะการทำงานของไดรฟ์จัดเก็บ
ไฟแสดงสถานะนี้แสดงสถานะของไดรฟ์จัดเก็บภายใน (เช่น ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์หรือไดรฟ์โซลิดสเทต)
ติด: ไดรฟ์จัดเก็บใช้งานอยู่และกำลังมีการโอนข้อมูล
ดับ (เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์): ไม่มีการโอนข้อมูล หรือไม่มีการใช้งานไดรฟ์จัดเก็บ
4 ไฟแสดงสถานะเปิด/ปิดเครื่อง
เมื่อไฟแสดงสถานะเปิด/ปิดเครื่องติดอยู่ แสดงว่าคอมพิวเตอร์เปิดอยู่
5 ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
กดปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง เพื่อเปิดคอมพิวเตอร์ หากคอมพิวเตอร์ไม่ตอบสนอง คุณสามารถปิดคอมพิวเตอร์ได้โดยกดปุ่ม เปิด/ปิด เครื่องค้างไว้สี่วินาทีหรือมากกว่า
6 ขั้วต่อไมโครโฟน
เชื่อมต่อไมโครโฟนเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านทางขั้วต่อไมโครโฟน
7 ขั้วต่อหูฟัง
2 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
เชื่อมต่อหูฟังเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านทางขั้วต่อหูฟัง
5
6 7
8
4
3
8 ช่องเสียบการ์ด SD
ใส่การ์ด Secure Digital (SD) ลงในช่องเสียบเพื่อให้สามารถเข้าถึงและอ่านข้อมูลบนการ์ดได้

มุมมองด้านหลัง

รูปภาพ 2. มุมมองด้านหลัง
1 ช่องเสียบสายล็อคเครื่อง
3 ที่คล้องตัวล็อค 4 ช่องเสียบสายล็อค (2)
5 ขั้วต่ออนุกรม (มีในบางรุ่น)
7 พื้นที่การ์ด PCI Express (แต่ละการ์ดจะมีขั้วต่อแตกต่าง
2 ขั้วต่ออีเทอร์เน็ต
6 ขั้วต่อช่องสัญญาณเสียงขาเข้า
8 ขั้วต่อช่องสัญญาณเสียงขาออก
กัน)
9 ตัวเชื่อมต่อไมโครโฟน
11 ขั้วต่อ USB 2.0 (2)
13 ขั้วต่อเมาส์ PS/2
10 ขั้วต่อ USB 3.0 (4)
12 ขั้วต่อแป้นพิมพ์ PS/2
14 ขั้วต่อสายไฟ
หมายเหตุ: อาจมีการติดตั้งการ์ดแสดงผลหรือการ์ด Ethernet ไว้แล้วใน Peripheral Component Interconnect (PCI) หรือพื้นที่การ์ด Express หากมีการติดตั้งการ์ดดังกล่าวแล้ว ต้องแน่ใจว่าคุณใช้ขั้วต่อบนการ์ดแทนขั้วต่อบน คอมพิวเตอร์
บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์ 3
1 ช่องเสียบสายล็อคเครื่อง
ติดตั้งสายล็อคแบบ Kensington กับช่องเสียบสายล็อคเครื่องเพื่อล็อคคอมพิวเตอร์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ “การ เชื่อมต่อสายล็อคแบบ Kensington” บนหน้าที่ 36
2 ขั้วต่ออีเทอร์เน็ต
ติดตั้งสาย Ethernet สำหรับเครือข่ายท้องถิ่น (LAN)
หมายเหตุ: ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ภายในขอบข่าย Federal Communications Commission(FCC) Class B ให้ใช้ สายประเภทที่ 5 หรือสาย Ethernet ขึ้นไป
3 ที่คล้องตัวล็อค
ติดตั้งตัวล็อคเพื่อล็อคคอมพิวเตอร์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ “การล็อคฝาครอบคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 35
4 ช่องเสียบสายล็อค
ช่องเสียบสายล็อคมีไว้ใช้ยึดสายล็อค สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ “การติดตั้งสายล็อค” บนหน้าที่ 37
5 ขั้วต่ออนุกรม
เชื่อมต่อโมเด็มภายนอก เครื่องพิมพ์แบบอนุกรม หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ขั้วต่ออนุกรมแบบ 9 พิน เข้ากับขั้วต่ออนุกรม
6 ขั้วต่อสัญญาณเสียงขาเข้า
ใช้ขั้วต่อสัญญาณเสียงขาเข้าเพื่อรับสัญญาณเสียงจากอุปกรณ์เครื่องเสียงภายนอก เช่น ระบบสเตอริโอ เมื่อคุณเชื่อม ต่ออุปกรณ์เครื่องเสียงภายนอก ให้เชื่อมต่อสายเคเบิลระหว่างขั้วต่อสัญญาณเสียงขาออกของอุปกรณ์กับขั้วต่อ สัญญาณเสียงขาเข้าของคอมพิวเตอร์
7 พื้นที่การ์ด PCI Express (แต่ละการ์ดจะมีขั้วต่อแตกต่างกัน)
เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของคุณมีประสิทธิภาพการทำงานดียิ่งขึ้น คุณสามารถติดตั้งการ์ด PCI Express กับพื้นที่นี้ได้ การ์ดที่ติดตั้งในพื้นที่นี้แล้วอาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของคอมพิวเตอร์
8 ขั้วต่อสัญญาณเสียงขาออก
ขั้วต่อสัญญาณเสียงขาออกจะใช้ส่งสัญญาณเสียงจากคอมพิวเตอร์ไปยังอุปกรณ์ภายนอก เช่น หูฟัง
4 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
9 ขั้วต่อไมโครโฟน
ติดตั้งไมโครโฟนเข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านขั้วต่อไมโครโฟนเมื่อคุณต้องการบันทึกเสียงหรือเมื่อคุณใช้ซอฟต์แวร์ การรู้จำเสียง
10 ขั้วต่อ USB 3.0
เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับ USB ได้ เช่น แป้นพิมพ์ USB, เมาส์ USB, ไดรฟ์จัดเก็บ หรือเครื่องพิมพ์ เข้ากับขั้ว ต่อนี้
11 ขั้วต่อ USB 2.0
เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับ USB ได้ เช่น แป้นพิมพ์ USB, เมาส์ USB, ไดรฟ์จัดเก็บ หรือเครื่องพิมพ์ เข้ากับขั้ว ต่อนี้
12 ขั้วต่อแป้นพิมพ์ PS/2
ติดตั้งแป้นพิมพ์ Personal System/2 (PS/2) เข้ากับขั้วต่อแป้นพิมพ์ PS/2
13 ขั้วต่อเมาส์ PS/2
ติดตั้งเมาส์ PS/2 แทร็กบอล หรืออุปกรณ์ชี้ตำแหน่งอื่นๆ ที่ใช้ขั้วต่อเมาส์ PS/2
14 ขั้วต่อสายไฟ
เชื่อมต่อสายไฟกับคอมพิวเตอร์เพื่อจ่ายไฟ

ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

หมายเหตุ:
คอมพิวเตอร์ของคุณอาจแตกต่างจากภาพประกอบนี้เพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น
ในการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์ โปรดดู “การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์” บน หน้าที่ 80
บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์ 5
รูปภาพ 3. ตำแหน่งของส่วนประกอบ
1 ตัวระบายความร้อนและส่วนประกอบพัดลม
3 ไดรฟ์แบบออปติคัล (บางรุ่น)
5 ส่วนประกอบสัญญาณเสียงด้านหน้าและส่วนประกอบ
2 โมดูลหน่วยความจำ
4 ตัวอ่านการ์ด
6 ฝาหน้า
USB
7 ส่วนประกอบพัดลมด้านหน้า (บางรุ่น)
9 การ์ดแสดงผล (บางรุ่น) 10 สวิตช์ยึดฝาครอบ (หรือสวิตช์ป้องกันการบุกรุก) (บาง
8 ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์
รุ่น)
11 ส่วนประกอบพัดลมด้านหลัง
12 ส่วนประกอบแหล่งจ่ายไฟ

ชิ้นส่วนต่างๆ บนแผงระบบ

ภาพประกอบนี้แสดงตำแหน่งของส่วนประกอบบนแผงระบบ
6 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
รูปภาพ 4. ตำแหน่งชิ้นส่วนแผงระบบ
1 ขั้วต่อไฟฟ้าแบบ 4 พิน
3 ช่องใส่หน่วยความจำ 2 (DIMM2)
5 ขั้วต่อพัดลมไมโครโปรเซสเซอร์
7 ช่องใส่หน่วยความจำ 3 (DIMM3)
9 ขั้วต่อพัดลมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ 10 ขั้วต่อไฟฟ้าแบบ 14 พิน
11 ขั้วต่อไฟฟ้า SATA แบบ 4 พิน
2 ช่องใส่หน่วยความจำ 1 (DIMM1)
4 ไมโครโปรเซสเซอร์
6 ช่องใส่หน่วยความจำ 4 (DIMM4)
8 ขั้วต่อเซนเซอร์อุณหภูมิ
12 ขั้วต่อ USB 2.0 (สำหรับเชื่อมต่อขั้วต่อ USB 2.0 ด้าน
หน้า ขั้วต่อตัวอ่านการ์ด หรือขั้วต่อ Bluetooth)
13 ขั้วต่อพัดลมด้านหน้า
15 ขั้วต่อ LED ของไดรฟ์ SAS/SATA
17 ตัวเชื่อมต่อ eSATA 18 ขั้วต่อ USB 3.0 ด้านหน้า (สำหรับการเชื่อมต่อขั้วต่อ
14 จัมเปอร์ล้าง CMOS /การกู้คืน
16 ขั้วต่อ SATA
USB บนแผงด้านหน้า)
19 ขั้วต่อ USB 2.0 (สำหรับเชื่อมต่อขั้วต่อ Wi-Fi หรือขั้วต่อ
ตัวอ่านการ์ด 29-in-1)
21 ขั้วต่ออนุกรม (COM)
20 ขั้วต่อฝาหน้า (สำหรับเชื่อมต่อไฟแสดงสถานะ LED และ
ปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง)
22 ขั้วต่อ Thunderbolt
23 ขั้วต่อจอแสดงผลการวินิจฉัยสี่หลัก
25 ขั้วต่อสัญญาณเสียงด้านหน้า
24 ขั้วต่อลำโพงภายใน
26 ช่องเสียบการ์ด PCI Express x4
บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์ 7
27 ช่องเสียบการ์ด PCI Express x16 28 ช่องเสียบการ์ด PCI Express x8
29 ช่องเสียบการ์ด PCI Express x16 (การ์ดแสดงผลมีใน
30 ขั้วต่อพัดลมด้านหลัง
บางรุ่น)
31 ขั้วต่อสวิตช์ยึดฝาครอบ (ขั้วต่อสวิตช์ป้องกันการบุกรุก)
32 แบตเตอรี่

ไดรฟ์ภายใน

ไดรฟ์ภายในเป็นอุปกรณ์ที่คอมพิวเตอร์ของคุณใช้อ่านและจัดเก็บข้อมูล คุณสามารถเพิ่มไดรฟ์ลงในคอมพิวเตอร์เพื่อ เพิ่มความจุจัดเก็บข้อมูล และเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่ออ่านสื่อประเภทอื่นๆ ไดรฟ์ภายในจะติดตั้งอยู่ในช่อง ใส่
เมื่อคุณติดตั้งหรือเปลี่ยนไดรฟ์ภายใน ให้สังเกตประเภทและขนาดของไดรฟ์ที่ช่องใส่แต่ละช่องสนับสนุนและเชื่อมต่อ สายเคเบิลที่ต้องใช้อย่างถูกต้อง โปรดดูส่วนที่เกี่ยวข้องใน บทที่ 7 “การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 79 สำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีติดตั้งหรือเปลี่ยนไดรฟ์ภายในสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ
ภาพประกอบนี้แสดงตำแหน่งของช่องใส่ไดรฟ์
รูปภาพ 5. ตำแหน่งช่องใส่ไดรฟ์
8 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
1 ช่องใส่ไดรฟ์แบบออปติคัลหลัก (พร้อมไดรฟ์แบบออปติคัล, โมดูล Flex, ช่องใส่อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ Flex, ช่องใส่
อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบเปิดจากด้านหน้า หรือช่องใส่แบบรวมสำหรับออพติคัล/อุปกรณ์เก็บข้อมูลติดตั้งมาแล้วในบางรุ่น)
2 ช่องใส่ไดรฟ์แบบออปติคัลสำรอง (พร้อมไดรฟ์แบบออปติคัล, โมดูล Flex, ช่องใส่อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ Flex, ช่องใส่
อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบเปิดจากด้านหน้า หรือช่องใส่แบบรวมสำหรับออพติคัล/อุปกรณ์เก็บข้อมูลติดตั้งมาแล้วในบางรุ่น)
3 ช่องเสียบการ์ด SD (พร้อมการ์ด SD ติดตั้งมาแล้วในบางรุ่น)
4 ช่องใส่ไดรฟ์จัดเก็บรอง (พร้อมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ไดรฟ์โซลิดสเทต หรือไฮบริดไดรฟ์ติดตั้งมาแล้วในบางรุ่น)
5 ช่องใส่ไดรฟ์จัดเก็บหลัก (พร้อมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ไดรฟ์โซลิดสเทต หรือไฮบริดไดรฟ์ติดตั้งมาแล้วในบางรุ่น)
6 ช่องเสียบการ์ด PCI Express (พร้อมไดรฟ์โซลิดสเทต PCI Express หรือการ์ด PCI อื่นๆ ติดตั้งมาแล้วในบางรุ่น)

ป้ายประเภทและรุ่นของเครื่อง

ป้ายประเภทและรุ่นเครื่องเป็นตัวระบุคอมพิวเตอร์ของคุณ เมื่อคุณติดต่อ Lenovo เพื่อขอความช่วยเหลือ ข้อมูล ประเภทและรุ่นเครื่องจะช่วยสนับสนุนช่างเทคนิคในการระบุคอมพิวเตอร์ของคุณ และสามารถให้บริการที่รวดเร็วขึ้น
ต่อไปนี้คือตัวอย่างของป้ายประเภทและรุ่นเครื่อง
รูปภาพ 6. ป้ายประเภทและรุ่นของเครื่อง
บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์ 9

คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์

สำหรับรุ่นคอมพิวเตอร์ของคุณโดยเฉพาะ คุณลักษณะบางรายการอาจแตกต่างไปหรือใช้ไม่ได้
ข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของคุณ
ในการดูข้อมูลพื้นฐาน (ข้อมูลไมโครโปรเซสเซอร์และหน่วยความจำ) เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ให้ดำเนินการดังนี้:
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. โปรดดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับรุ่นระบบปฏิบัติการ Microsoft
สำหรับ Windows 7: คลิกขวา คอมพิวเตอร์ แล้วคลิก คุณสมบัติ
สำหรับ Windows 10: คลิก การตั้งค่า ระบบ เกี่ยวกับ
ในการดูข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ (เช่น ไดรฟ์แบบออปติคัล และอะแดปเตอร์เครือข่าย) บนคอมพิวเตอร์ ของคุณ ให้ดำเนินการดังนี้:
1. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม คลิกขวา คอมพิวเตอร์ แล้วคลิก คุณสมบัติ
สำหรับ Windows 10: คลิกขวาปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูบริบทเริ่ม
2. คลิก ตัวจัดการอุปกรณ์
3. ค้นหาและดับเบิลคลิกอุปกรณ์ของคุณใน ตัวจัดการอุปกรณ์ เพื่อดูคุณสมบัติอุปกรณ์ พิมพ์รหัสผ่านผู้ดูแล
ระบบ หรือให้ข้อมูลยืนยันเมื่อได้รับข้อความ
หน่วยความจำ
คอมพิวเตอร์คุณรองรับโมดูลหน่วยความจำแบบ Double Data Rate 4 (DDR4) Error Correction Code (ECC)
®
Windows®:
Unbuffered Dual Inline Memory Module (UDIMM) และแบบ DDR4 ECC Registered DIMM (RDIMM) สูงสุดสี่ตัว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ “โมดูลหน่วยความจำ” บนหน้าที่ 92
ไดรฟ์จัดเก็บ
คอมพิวเตอร์ของคุณรองรับไดรฟ์จัดเก็บต่อไปนี้:
การ์ด SD
ไดรฟ์แบบออปติคัล (มีในบางรุ่น)
ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ Serial Advanced Technology Attachment (SATA)
ไดรฟ์ไฮบริด SATA (มีในบางรุ่น)
10 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ไดรฟ์โซลิดสเทต SATA (มีในบางรุ่น)
ไดรฟ์โซลิดสเทต PCI Express (ไดรฟ์โซลิดสเทต M.2) (มีในบางรุ่น)
หากต้องการดูจำนวนพื้นที่ว่างไดรฟ์จัดเก็บ ให้ดำเนินการดังนี้:
1. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม คลิกขวา คอมพิวเตอร์ แล้วคลิก จัดการ
สำหรับ Windows 10: คลิกขวาปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูบริบทเริ่ม
2. คลิก การจัดการดิสก์ และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
คุณลักษณะวิดีโอ
ช่องเสียบการ์ดแสดงผล PCI Express x16 บนแผงระบบสำหรับการ์ดแสดงผลแบบแยก
ขั้วต่อวิดีโอบนการ์ดแสดงผลแบบแยก:
ขั้วต่อ Digital Visual Interface (DVI) (มีในบางรุ่น)
ขั้วต่อ DisplayPort
ขั้วต่อ Mini DisplayPort
®
(มีในบางรุ่น)
®
(มีในบางรุ่น)
คุณลักษณะเสียง
ตัวควบคุมเสียงในตัวรองรับขั้วต่อและอุปกรณ์ต่อไปนี้บนคอมพิวเตอร์ของคุณ:
ขั้วต่อช่องสัญญาณเสียงขาเข้า
ขั้วต่อช่องสัญญาณเสียงขาออก
ขั้วต่อหูฟัง
ลำโพงภายใน
ขั้วต่อไมโครโฟน
คุณลักษณะอินพุต/เอาต์พุต (I/O)
ขั้วต่อ Ethernet 100/1000 Mbps
ขั้วต่ออนุกรม
ขั้วต่อเสียง (ขั้วต่อช่องสัญญาณเสียงขาเข้า ขั้วต่อช่องสัญญาณเสียงขาออก ขั้วต่อไมโครโฟน และขั้วต่อหูฟัง)
ขั้วต่อจอแสดงผล (ขั้วต่อ DisplayPort, ขั้วต่อ DVI และขั้วต่อ Mini DisplayPort) (แตกต่างกันไปในการ์ดแสดง ผล)
ขั้วต่อ eSATA (มีในบางรุ่น)
บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์ 11
ขั้วต่อ Institute of Electrical and Electronics Engineer (IEEE) 1394 (มีในบางรุ่น)
ขั้วต่อแป้นพิมพ์ PS/2
ขั้วต่อเมาส์ PS/2
ขั้วต่อ USB
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ “มุมมองด้านหน้า” บนหน้าที่ 1 และ “มุมมองด้านหลัง” บนหน้าที่ 3
ช่องเพิ่มเติม
ช่องใส่ไดรฟ์จัดเก็บ
ช่องใส่หน่วยความจำ
ช่องใส่ไดรฟ์แบบออปติคัล
ช่องเสียบการ์ด PCI Express x4
ช่องเสียบการ์ด PCI Express x8
ช่องเสียบการ์ด PCI Express x16 (การ์ดแสดงผลมีในบางรุ่น)
ช่องเสียบการ์ด SD
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ “ไดรฟ์ภายใน” บนหน้าที่ 8 และ “ชิ้นส่วนต่างๆ บนแผงระบบ” บนหน้าที่ 6
แหล่งจ่ายไฟ
แหล่งจ่ายไฟที่วัดแรงดันไฟฟ้า 92% อัตโนมัติ 450 วัตต์
คุณลักษณะไร้สาย
อาจรองรับคุณลักษณะไร้สายต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของคอมพิวเตอร์:
LAN ไร้สาย
Bluetooth
คุณลักษณะการจัดการระบบ
ความสามารถในการจัดเก็บผลการทดสอบฮาร์ดแวร์ Power-on self-test (POST)
Desktop Management Interface (DMI)
Desktop Management Interface ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านต่างๆ ทั้งหมดของคอมพิวเตอร์ รวมถึง ประเภทหน่วยประมวลผล วันที่ติดตั้ง เครื่องพิมพ์และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ที่เชื่อมต่อ แหล่งพลังงานและ ประวัติการดูแลรักษา
โหมดที่สอดคล้องกับ ErP LPS
12 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
โหมดที่สอดคล้องกับข้อบังคับว่าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน (ErP) สถานะการใช้พลังงานน้อยที่สุด (LPS) ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าเมื่อคอมพิวเตอร์อยู่ในโหมดสลีป หรือปิด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ “การเปิดใช้ งานหรือปิดใช้งานโหมดที่สอดคล้องกับ ErP LPS” บนหน้าที่ 45
Intel
®
Standard Manageability (ISM)
Intel Standard Manageability เป็นเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และเฟิร์มแวร์ ที่สร้างฟังก์ชันการทำงานให้คอมพิวเตอร์ใช้ งานได้ง่ายขึ้น และมีราคาต่ำลงสำหรับธุรกิจเพื่อตรวจสอบ บำรุงรักษา อัปเดต อัพเกรด และซ่อมแซม
Intel Active Management Technology (AMT)
Intel Active Management Technology เป็นเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และเฟิร์มแวร์ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้ง่าย ขึ้น และมีราคาต่ำลงสำหรับธุรกิจเพื่อตรวจสอบ บำรุงรักษา อัปเดต อัพเกรด และซ่อมแซม
Intel Rapid Storage Technology enterprise (RSTe)
ยูทิลิตีการกำหนดค่า Intel RSTe ช่วยให้คุณสามารถกำหนดค่า Redunant Arrary of Independent Disks (RAID) สำหรับคอมพิวเตอร์ทีมีแผงระบบชิปเซ็ตเฉพาะของ Intel รองรับระดับ RAID 0, 1, 5 และ 10 บน คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งด้วยอุปกรณ์ Serial Advanced Technology Attachment (SATA)
Intel Matrix Storage Manager
Intel Matrix Storage Manager คือโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์ที่ให้การสนับสนุนอาร์เรย์ SATA RAID 5 และ อาร์เรย์ SATA RAID 10 ในแผงระบบชิปเซ็ต Intel บางประเภทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพฮาร์ดดิสก์
Preboot Execution Environment (PXE)
Preboot Execution Environment คือสภาพแวดล้อมในการเริ่มการทำงานของคอมพิวเตอร์โดยใช้อินเทอร์เฟซ เครือข่ายอิสระของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (เช่น ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ หรือระบบปฏิบัติการที่ติดตั้ง)
การจัดการระบบ (SM) basic input/output system (BIOS) และซอฟต์แวร์ SM
ข้อกำหนด SM BIOS กำหนดโครงสร้างข้อมูลและวิธีการเข้าใช้งานใน BIOS ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้หรือแอปพลิเคชัน สามารถจัดเก็บและเรียกดูข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการได้
Wake on LAN (WOL)
Wake on LAN คือมาตรฐานเครือข่ายคอมพิวเตอร์ Ethernet ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเปิดหรือปลุกให้ ทำงานโดยข้อความจากเครือข่าย ข้อความมักจะส่งโดยโปรแกรมที่ทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในเครือข่าย ท้องถิ่นเดียวกัน
Windows Management Instrumentation (WMI)
Windows Management Instrumentation คือชุดของส่วนเพิ่มเติมจาก Windows Driver Model ซึ่งมีอินเทอร์เฟซ ระบบปฏิบัติการ ที่ส่วนประกอบอุปกรณ์จะให้ข้อมูลและการแจ้งเตือนผ่านอินเทอร์เฟซดังกล่าว
คุณลักษณะด้านความปลอดภัย
ความสามารถในการเปิดใช้งานและปิดใช้งานอุปกรณ์
ความสามารถในการเปิดใช้งานและปิดใช้งานขั้วต่อ USB แต่ละขั้ว
บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์ 13
โปรแกรมป้องกันไวรัส
ซอฟต์แวร์ Computrace Agent ที่ฝังในเฟิร์มแวร์
สวิตช์ยึดฝาครอบ (หรือสวิตช์ป้องกันการบุกรุก)
คุณสามารถใช้รหัสผ่าน BIOS และบัญชี Windows เพื่อป้องกันการใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณโดยไม่ได้รับ อนุญาต
BIOS guard
การตรวจสอบนิ้วมือ (มีในบางรุ่น)
ไฟร์วอลล์
การควบคุมลำดับการเริ่มต้นระบบ
เริ่มต้นระบบโดยไม่ใช้แป้นพิมพ์หรือเมาส์
การสนับสนุนการล็อคฝาครอบคอมพิวเตอร์
สนับสนุนสายล็อคแบบ Kensington
การสนับสนุนตัวล็อค
Trusted Platform Module (TPM)
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ บทที่ 4 “ความปลอดภัย” บนหน้าที่ 35
ระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งอยู่ก่อนแล้ว
คอมพิวเตอร์ของคุณได้รับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 หรือ Windows 10 ไว้ล่วงหน้าแล้ว ระบบปฏิบัติการ เพิ่มเติมอาจได้รับการระบุโดย Lenovo ว่าสามารถทำงานร่วมกันได้กับคอมพิวเตอร์ของคุณ หากต้องการดูว่าระบบ ปฏิบัติการได้รับการรับรองหรือทดสอบความสามารถในการใช้งานร่วมกันได้หรือไม่ โปรดดูเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ระบบปฏิบัติการ

ข้อมูลจำเพาะคอมพิวเตอร์

หมวดนี้แสดงข้อกำหนดทางกายภาพสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
14 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ขนาด
กว้าง: 175 มม. (6.89 นิ้ว)
สูง: 376 มม. (14.80 นิ้ว)
ลึก: 426 มม. (16.77 นิ้ว)
น้ำหนัก
ค่ากำหนดสูงสุดเมื่อจัดส่ง: 15.5 กก. (34.17 ปอนด์)
สภาพแวดล้อม
อุณหภูมิอากาศ:
ขณะใช้งาน: ตั้งแต่ 10°C (50°F) ถึง 35°C (95°F)
การจัดเก็บในบรรจุภัณฑ์เดิมเมื่อตอนซื้อเครื่อง: ตั้งแต่ -40°C (-40°F) ถึง 60°C (140°F)
การจัดเก็บโดยไม่มีบรรจุภัณฑ์: ตั้งแต่ -10°C (14°F) ถึง 60°C (140°F)
ความชื้น:
ขณะใช้งาน: 10%–80% (ไม่เกิดหยดน้ำ)
การจัดเก็บ: 10%–90% (ไม่เกิดหยดน้ำ)
ความสูงจากระดับน้ำทะเล:
ขณะใช้งาน: ตั้งแต่ -15.2 ม. (-50 ฟุต) ถึง 3,048 ม. (10,000 ฟุต)
การจัดเก็บ: ตั้งแต่ -15.2 ม. (-50 ฟุต) ถึง 10,668 ม. (35,000 ฟุต)
กำลังไฟฟ้า
แรงดันไฟฟ้าอินพุต: ตั้งแต่ 100 V ac ถึง 240 V ac
ความถี่ขาเข้า: 50/60 Hz

โปรแกรม

หมวดนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

การเข้าถึงโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

หมายเหตุ: สำหรับ Windows 7 อาจมีโปรแกรม Lenovo ที่พร้อมสำหรับการติดตั้ง คุณจึงต้องติดตั้งด้วยตนเอง ทั้งนี้
ขึ้นอยู่กับรุ่นของคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้ จากนั้น คุณสามารถเข้าถึงและใช้โปรแกรมเหล่านี้ได้
ในการเข้าถึงโปรแกรมของบนคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้:
จาก Windows Search:
บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์ 15
1. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม แล้วพิมพ์ชื่อโปรแกรมในกล่องค้นหา
สำหรับ Windows 10: พิมพ์ชื่อโปรแกรมในกล่องค้นหาที่อยู่ถัดจากปุ่มเริ่ม
2. ในผลลัพธ์การค้นหา ให้คลิกชื่อของโปรแกรมที่ต้องการเพื่อเรียกใช้โปรแกรม
จากเมนูเริ่มหรือแผงควบคุม:
1. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม หากชื่อโปรแกรมไม่แสดง ให้คลิก โปรแกรม
ทั้งหมด เพื่อแสดงรายชื่อโปรแกรม จากนั้น คลิกชื่อของโปรแกรมที่ต้องการเพื่อเรียกใช้โปรแกรม
สำหรับ Windows 10: คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม จากนั้น คลิกชื่อของโปรแกรมที่ต้องการเพื่อเรียก
ใช้โปรแกรม
2. หากชื่อโปรแกรมไม่แสดงบนเมนูเริ่ม ให้เข้าถึงโปรแกรมจากแผงควบคุม
a. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม
สำหรับ Windows 10: คลิก ระบบ Windows แผงควบคุม
b. ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้วคลิกชื่อของโปรแกรมที่ต้องการเพื่อ
เรียกใช้โปรแกรม

การติดตั้งโปรแกรมที่พร้อมสำหรับการติดตั้ง (Windows 7 เท่านั้น)

บนระบบปฏิบัติการ Windows 7 ในการติดตั้งโปรแกรมที่พร้อมสำหรับการติดตั้ง ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Lenovo ThinkVantage
2. คลิก ดู แผ่นไทล์ เพื่อดูไอคอนโปรแกรม
3. ทำตามคำแนะนำใต้ไอคอนสีเทาเพื่อค้นหาไอคอนสำหรับโปรแกรมที่ต้องการ แล้วดับเบิลคลิกที่ไอคอนเพื่อติด ตั้งโปรแกรม
®
Tools ดู “การเข้าถึงโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ของคุณ” บนหน้าที่ 15

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรแกรม Lenovo

ส่วนนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม Lenovo ที่สำคัญในระบบปฏิบัติการ
หมายเหตุ: คอมพิวเตอร์ของคุณอาจไม่มีโปรแกรมต่อไปนี้บางโปรแกรม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของคอมพิวเตอร์
16 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
Fingerprint Manager Pro หรือ ThinkVantage Fingerprint Software
(Windows 7)
โปรแกรม Fingerprint Manager Pro หรือ ThinkVantage Fingerprint Software ให้คุณสามารถใช้เครื่องอ่านลายนิ้วมือได้ เครื่องอ่านลายนิ้วมือบนแป้นพิมพ์บาง รุ่นช่วยให้คุณสามารถบันทึกลายนิ้วมือของคุณ และนำไปใช้ร่วมกับรหัสผ่านใน การเปิดเครื่อง รหัสผ่านฮาร์ดดิสก์และรหัสผ่าน Windows ของคุณได้ ดังนั้น การ ตรวจสอบลายนิ้วมือสามารถใช้แทนรหัสผ่าน และช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งาน ได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย
Lenovo Companion
(Windows 10)
Lenovo PC Experience
(Windows 7)
คุณลักษณะและความสามารถที่ดีที่สุดของคอมพิวเตอร์ของคุณควรเข้าถึงและ เข้าใจได้ง่าย ด้วย Lenovo Companion เราทำได้ ใช้ Lenovo Companion เพื่อ ทำสิ่งต่อไปนี้:
เพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบการทำงานของคอมพิวเตอร์ และจัดการการอัปเดต
เข้าถึงคู่มือผู้ใช้ ตรวจสอบสถานะการรับประกัน และดูอุปกรณ์เสริมที่ปรับ แต่งสำหรับคอมพิวเตอร์
อ่านบทความวิธีใช้งาน สำรวจฟอรัม Lenovo และรับข่าวสารเทคโนโลยี ล่าสุดจากบทความและบล็อคจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
Lenovo Companion ประกอบด้วยเนื้อหาเฉพาะของ Lenovo เพื่อช่วยให้คุณ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำได้กับคอมพิวเตอร์
โปรแกรมนี้ช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายและปลอดภัยด้วยการมอบการเข้าถึง โปรแกรมต่างๆ ได้ง่าย
หมายเหตุ: จะไม่พบโปรแกรมนี้ในรายการโปรแกรมทั้งหมดหรือช่องค้นหา ใน การเข้าถึงโปรแกรมนี้ ไปที่แผงควบคุม ดูแผงควบคุมตามประเภท คลิก
ฮาร์ดแวร์และเสียง อุปกรณ์และเครื่องพิมพ์ แล้วดับเบิลคลิกอุปกรณ์ที่
มีชื่อคอมพิวเตอร์ของคุณ
Lenovo ID
(Windows 10)
โปรแกรม Lenovo ID ช่วยให้คุณสร้างและจัดการ Lenovo ID ของคุณได้ ด้วย Lenovo ID คุณสามารถเชื่อมต่อกับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ Lenovo ผ่านบัญชีเพียง บัญชีเดียว ใช้ Lenovo ID เพื่อการตรวจสอบสิทธิ์ที่รวดเร็วและง่าย แล้ว เพลิดเพลินกับบริการต่างๆ ที่ Lenovo มอบให้ เช่น บริการที่มีการช้อปปิ้ง ออนไลน์ ดาวน์โหลดแอป รองรับอุปกรณ์ที่ปรับแต่งเฉพาะตัว ข้อเสนอโปรโมชัน พิเศษ ฟอรัม Lenovo และอื่นๆ
บทที่ 1. ภาพรวมผลิตภัณฑ์ 17
Lenovo PowerENGAGE
(Windows 7)
โปรแกรม Lenovo PowerENGAGE มีฟังก์ชันการจัดการพลังงาน
Lenovo Solution Center
(Windows 7 และ Windows 10)
Lenovo ThinkVantage Tools
(Windows 7)
Recovery Media
(Windows 7)
System Update
(Windows 7)
โปรแกรม Lenovo Solution Center จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยจะรวมการทดสอบวินิจฉัย การรวบรวมข้อมูลระบบ สถานะการรักษาความ ปลอดภัย และข้อมูลสนับสนุน ตลอดจนคำแนะนำและเคล็ดลับเพื่อให้สามารถใช้ งานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
โปรแกรม Lenovo ThinkVantage Tools จะอำนวยความสะดวกในการเข้าใช้ เครื่องมืออันหลากหลายเพื่อช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้นและปลอดภัยมากกว่า เดิม
โปรแกรม Recovery Media ทำให้คุณสามารถเรียกคืนเนื้อหาของฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์กลับเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
โปรแกรม System Update ให้คุณสามารถเข้าถึงการอัปเดตระบบได้ตามปกติ สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่น การอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ การอัปเดต ซอฟต์แวร์ และการอัปเดต BIOS โปรแกรมได้รวบรวมข้อมูลจาก Lenovo Help Center เกี่ยวกับการอัปเดตสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ แล้วจัดเรียงและแสดงผล การอัปเดตเพื่อดาวน์โหลดและติดตั้ง คุณสามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่ว่าจะ ดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตใด
ThinkStation Diagnostics
(Windows 7 และ Windows 10)
18 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
โปรแกรม ThinkStation Diagnostics นี้จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ โปรแกรมจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อฟังก์ชันการตรวจสอบการวินิจฉัยฮาร์ดแวร์แบบ เรียลไทม์ตรวจพบปัญหาใดๆ และโปรแกรมนี้ยังระบุรายละเอียดของปัญหา วิเคราะห์สาเหตุที่เป็นไปได้ และให้วิธีแก้ไขปัญหา

บทที่ 2. การใช้คอมพิวเตอร์ของคุณ

บทนี้ประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้:
“การลงทะเบียนคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 19
“การตั้งค่าระดับเสียงคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 19
“การใช้ดิสก์” บนหน้าที่ 19
“การเชื่อมต่อเครือข่าย” บนหน้าที่ 22

การลงทะเบียนคอมพิวเตอร์

เมื่อคุณลงทะเบียนคอมพิวเตอร์กับ Lenovo แล้ว ข้อมูลที่จำเป็นของคุณจะอยู่ในฐานข้อมูล Lenovo ข้อมูลช่วยให้ Lenovo สามารถติดต่อคุณได้เมื่อมีการเรียกคืนหรือปัญหาใหญ่อื่นๆ พร้อมทั้งให้บริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อคุณติดต่อ Lenovo เพื่อขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ในบางแห่งยังมีสิทธิพิเศษและบริการเพิ่มเติมให้แก่ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนอีกด้วย
ในการลงทะเบียนคอมพิวเตอร์ของคุณกับ Lenovo โปรดไปที่ http://www.lenovo.com/register และทำตามคำแนะนำ บนหน้าจอ

การตั้งค่าระดับเสียงคอมพิวเตอร์

ในการตั้งค่าระดับเสียงคอมพิวเตอร์ ให้ดำเนินการดังนี้:
1. คลิกไอคอนระดับเสียงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows บนแถบงาน
หมายเหตุ: หากไอคอนระดับเสียงไม่แสดงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows ให้เพิ่มไอคอนในพื้นที่การแจ้ง เตือน ดูระบบวิธีใช้ Windows
2. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอและข้อความโฮเวอร์เพื่อปรับระดับเสียง ปิดเสียงลำโพง หรือเปิดเสียงลำโพง

การใช้ดิสก์

ส่วนนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ดิสก์และไดรฟ์แบบออปติคัล

คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ไดรฟ์แบบออปติคัล

เมื่อใช้ไดรฟ์แบบออปติคัล ให้ทำตามคำแนะนำต่อไปนี้:
© Copyright Lenovo 2016, 2017 19
อย่างวางคอมพิวเตอร์ในสถานที่ที่ไดรฟ์อาจสัมผัสกับสภาพต่อไปนี้:
อุณหภูมิสูง
ความชื้นสูง
ฝุ่นละอองจำนวนมาก
การสั่นสะเทือนหรือการเขย่าอย่างรุนแรง
พื้นผิวเอียง
แสงแดดโดยตรง
โปรดอย่าใส่วัตถุอื่นที่ไม่ใช่ดิสก์ในไดรฟ์
อย่าใส่ดิสก์ที่เสียหายลงในไดรฟ์ ดิสก์ที่โค้งงอ มีรอยขีดข่วนหรือสกปรกอาจทำให้ไดรฟ์เสียหายได้
ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์ ให้เอาดิสก์ออกจากไดรฟ์

การจัดการและจัดเก็บดิสก์

เมื่อจัดการและจัดเก็บดิสก์ โปรดทำตามคำแนะนำเหล่านี้:
จับดิสก์ที่ส่วนขอบ อย่าแตะผิวหน้าของด้านที่ไม่ได้มีข้อความกำกับ
หากต้องการเช็ดฝุ่นหรือลายนิ้วมือ ให้เช็ดดิสก์ด้วยผ้าที่นุ่มและสะอาดจากตรงกลางออกมาข้างนอก การเช็ดดิสก์ ในทิศทางที่เป็นวงกลมอาจก่อให้เกิดการสูญหายของข้อมูล
อย่าเขียนหรือติดกระดาษบนดิสก์
อย่าขีดข่วนหรือทำเครื่องหมายดิสก์
อย่าวางหรือจัดเก็บดิสก์ในที่ที่โดนแสงแดดส่องโดยตรง
อย่าใช้เบนซิน ทินเนอร์ หรือตัวทำความสะอาดอื่นๆ เพื่อการทำความสะอาดดิสก์
อย่าทำดิสก์ตก หรืองอดิสก์

การเล่นและการถอดดิสก์

ในการเล่นดิสก์ ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เมื่อคอมพิวเตอร์เปิดอยู่ ให้กดปุ่มนำออก/ปิดที่ด้านหน้าของไดรฟ์แบบออปติคัล ถาดจะเลื่อนออกมาจากไดรฟ์
2. ใส่ดิสก์ในถาด ไดรฟ์แบบออปติคัลบางรุ่นมีฮับกันหลุดตรงกลางถาด หากไดรฟ์ของคุณมีดุมกันหลุด ให้จับถาด ด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วกดตรงกลางของดิสก์จนกว่าจะเข้าที่
3. กดปุ่มนำออก/ปิดอีกครั้ง หรือดันถาดไปข้างหน้าเบาๆ เพื่อปิดถาด เครื่องเล่นดิสก์จะเริ่มโดยอัตโนมัติ สำหรับ ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูระบบวิธีใช้ของโปรแกรมเครื่องเล่นดิสก์
หากต้องการเอาดิสก์อกจากไดรฟ์แบบออปติคัล ให้ดำเนินการดังนี้:
20 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
1. เมื่อคอมพิวเตอร์เปิดอยู่ ให้กดปุ่มนำออก/ปิดที่ด้านหน้าของไดรฟ์แบบออปติคัล ถาดจะเลื่อนออกมาจากไดรฟ์
2. เอาดิสก์ออกจากถาดอย่างระมัดระวัง
3. กดปุ่มนำออก/ปิดอีกครั้ง หรือดันถาดไปข้างหน้าเบาๆ เพื่อปิดถาด
หมายเหตุ: หากถาดไม่เลื่อนออกจากไดรฟ์เมื่อคุณกดปุ่มนำออก/ปิด ให้ปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้น สอดคลิปหนีบ กระดาษที่ยืดออกเข้าไปในช่องนำออกฉุกเฉินซึ่งอยู่ติดกับปุ่มนำออก/ปิด ใช้นำออกฉุกเฉินในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

การบันทึกดิสก์

หากไดรฟ์แบบออปติคัลรองรับการบันทึก คุณสามารถบันทึกดิสก์ได้
การบันทึกดิสก์โดยใช้เครื่องมือ Windows
ในการบันทึกดิสก์โดยใช้เครื่องมือ Windows ให้ดำเนินการดังนี้:
เบิร์นดิสก์โดยใช้หน้าต่างเล่นอัตโนมัติ
1. ดูให้แน่ใจว่าดิสก์นั้นเล่นโดยอัตโนมัติ
a. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
b. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาด
เล็ก แล้วคลิก เล่นอัตโนมัติ
สำหรับ Windows 10: คลิก การตั้งค่า อุปกรณ์ เล่นอัตโนมัติ
c. เลือกหรือเปิด ใช้ เล่นอัตโนมัติ กับอุปกรณ์และสื่อทั้งหมด
2. ใส่ดิสก์ที่สามารถบันทึกได้ในไดรฟ์แบบออปติคัลที่รองรับการบันทึก หน้าต่างเล่นอัตโนมัติจะเปิดขึ้น
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
เบิร์นดิสก์โดยใช้ Windows Media
1. ใส่ดิสก์ที่สามารถบันทึกได้ในไดรฟ์แบบออปติคัลที่รองรับการบันทึก
2. เปิด Windows Media Player ดู “การเข้าถึงโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ของคุณ” บนหน้าที่ 15
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
เบิร์นดิสก์จากไฟล์ ISO
1. ใส่ดิสก์ที่สามารถบันทึกได้ในไดรฟ์แบบออปติคัลที่รองรับการบันทึก
2. ดับเบิลคลิกไฟล์ ISO
®
Player
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
บทที่ 2. การใช้คอมพิวเตอร์ของคุณ 21
การบันทึกดิสก์โดยใช้โปรแกรมที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าใหม่
ในการบันทึกดิสก์โดยใช้โปรแกรมที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าใหม่ ให้ดำเนินการดังนี้:
1. ใส่ดิสก์ที่สามารถบันทึกได้ในไดรฟ์แบบออปติคัลที่รองรับการบันทึก
2. เปิดโปรแกรม PowerDVD Create, PowerProducer หรือ Power2Go ดู “การเข้าถึงโปรแกรมบน คอมพิวเตอร์ของคุณ” บนหน้าที่ 15
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

การเชื่อมต่อเครือข่าย

ส่วนนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเครือข่าย หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเครือข่ายได้ โปรดดูที่ “ปัญหาเกี่ยวกับ Ethernet LAN” บนหน้าที่ 66

การเชื่อมต่อ Ethernet LAN

คุณสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับ Ethernet LAN ได้โดยเชื่อมต่อสาย Ethernet กับขั้วต่อ Ethernet
อันตราย
เพื่อหลีกเลี่ยงไฟช็อต อย่าเชื่อมต่อสายโทรศัพท์กับขั้วต่ออีเทอร์เน็ต

การเชื่อมต่อ LAN ไร้สาย

คุณสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับ LAN ไร้สายได้โดยไม่ต้องใช้สาย Ethernet ซึ่งจะถ่ายโอนผ่านสัญญาณวิทยุ เท่านั้น
หมายเหตุ: คุณลักษณะ LAN ไร้สายมีมาให้เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น
ในการสร้างการเชื่อมต่อ LAN ไร้สาย ให้ทำดังนี้:
1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า LAN ไร้สายพร้อมใช้งาน และคุณลักษณะ LAN ไร้สาย บนคอมพิวเตอร์ทำงานปกติ
2. คลิกไอคอนสถานะการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows เพื่อแสดงเครือข่ายไร้สายที่ พร้อมใช้งาน
หมายเหตุ: หากไอคอนสถานะการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายไม่แสดงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows ให้เพิ่ม ไอคอนในพื้นที่การแจ้งเตือน ดูระบบวิธีใช้ Windows
3. คลิก LAN ไร้สาย แล้วคลิก เชื่อมต่อ เพื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของคุณ ใส่ข้อมูลที่ต้องใช้ หากจำเป็น
22 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่สามารถใช้ Bluetooth ได้

Bluetooth เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายรัศมีระยะสั้น ใช้ Bluetooth เพื่อกำหนดการเชื่อมต่อไร้สายระหว่าง คอมพิวเตอร์ของคุณกับอุปกรณ์ที่สามารถใช้ Bluetooth ได้อื่น ภายในระยะประมาณ 10 เมตร (32.8 ฟุต)
หมายเหตุ: คุณลักษณะ Bluetooth มีมาให้เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น
ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่สามารถใช้ Bluetooth ได้ ให้ดำเนินการดังนี้:
1. ต้องแน่ใจว่าคุณลักษณะ Bluetooth บนคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานปกติ และเจออุปกรณ์ที่สามารถใช้ Bluetooth ได้ภายในระยะประมาณ 10 เมตร (32.8 ฟุต) จากคอมพิวเตอร์ของคุณ
2. คลิกไอคอน Bluetooth ในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows บนแถบงาน
หมายเหตุ: หากไอคอน Bluetooth ไม่แสดงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows ให้เพิ่มไอคอนในพื้นที่การแจ้ง เตือน ดูระบบวิธีใช้ Windows
3. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก เพิ่มอุปกรณ์ แล้วทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
สำหรับ Windows 10: คลิก เพิ่มอุปกรณ์ Bluetooth แล้วทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
บทที่ 2. การใช้คอมพิวเตอร์ของคุณ 23
24 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

บทที่ 3. คุณและคอมพิวเตอร์ของคุณ

บทนี้ประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้:
“การจัดเตรียมพื้นที่ทำงานของคุณ” บนหน้าที่ 25
“ข้อมูลการใช้งาน” บนหน้าที่ 27
“การทำความสะอาดคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 31
“การบำรุงรักษา” บนหน้าที่ 31
“การเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณ” บนหน้าที่ 33

การจัดเตรียมพื้นที่ทำงานของคุณ

จัดพื้นที่ทำงานของคุณให้เหมาะกับความต้องการของคุณ และประเภทของงานที่คุณทำ ส่วนนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัย ที่ส่งผลต่อการจัดพื้นที่ทำงานของคุณ

แสงจ้าและการจัดแสงไฟ

จัดตำแหน่งจอภาพเพื่อลดแสงจ้าและแสงสะท้อนจากแสงด้านบน, หน้าต่าง และแหล่งที่มาของแสงอื่นๆ แสงที่สะท้อน จากพื้นผิวมันวาวสามารถทำให้เกิดแสงสะท้อนที่น่ารำคาญบนหน้าจอของคุณได้ หากเป็นไปได้ ให้วางจอภาพในมุมที่ เหมาะสมกับหน้าต่างและแหล่งที่มาของแสงอื่นๆ หากจำเป็น ให้ลดแสงจากด้านบนโดยการปิดไฟหรือใช้หลอดไฟที่มี กำลังวัตต์ต่ำ หากคุณติดตั้งจอภาพใกล้กับหน้าต่าง ให้ใช้ผ้าม่านหรือบานเกล็ดป้องกันแสงอาทิตย์ คุณสามารถปรับปุ่ม ควบคุมความสว่างและความเข้มของภาพได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของแสงในห้องระหว่างวัน
หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงสะท้อนหรือปรับแสงได้ การใช้แผ่นกรองแสงปิดทับหน้าจออาจช่วยได้ อย่างไรก็ตาม แผ่นกรองเหล่านี้อาจส่งผลต่อความชัดเจนของภาพบนหน้าจอ ลองใช้แผ่นกรองหลังจากที่คุณได้ลองลดแสงสะท้อน ด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล

การหมุนเวียนอากาศ

คอมพิวเตอร์ของคุณทำให้เกิดความร้อน คอมพิวเตอร์มีพัดลมซึ่งดูดอากาศดีและไล่อากาศร้อนออกไปผ่านการระบาย อากาศ การปิดกั้นช่องระบายอากาศสามารถส่งผลให้เกิดความร้อนเกินขนาด ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการทำงานผิดพลาด หรือเกิดความเสียหายได้ จัดวางคอมพิวเตอร์ไม่ให้มีสิ่งปิดกั้นช่องระบายอากาศ ปกติควรมีช่องว่างสำหรับอากาศ ถ่ายเทประมาณ 51 มม. (2 นิ้ว) ต้องแน่ใจว่าอากาศที่ระบายออกมาไม่ควรถูกผู้คน
© Copyright Lenovo 2016, 2017 25

ตำแหน่งเต้ารับไฟฟ้าและความยาวของสายไฟ

ปัจจัยต่อไปนี้อาจกำหนดการจัดวางคอมพิวเตอร์ของคุณในที่สุด:
ตำแหน่งเต้ารับไฟฟ้า
ความยาวของสายไฟและอุปกรณ์แปลงไฟ
ความยาวของสายเคเบิลที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายไฟ หรืออุปกรณ์แปลงไฟ โปรดดูที่ “สายไฟและอุปกรณ์แปลงไฟ” บนหน้าที่ vii

ความสะดวกสบาย

แม้ว่าจะไม่มีท่าในการทำงานใดที่ถือเป็นเลิศสำหรับทุกคน แต่คำแนะนำเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณจัดท่าที่เหมาะสมกับ คุณที่สุดได้ รูปต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเพื่อให้คุณใช้อ้างอิง
ตำแหน่งหน้าจอ: วางหน้าจอให้อยู่ในระยะการมองเห็นได้สบาย โดยปกติอยู่ที่ 51–61 ซม. (20–24 นิ้ว) จากนั้น ปรับหน้าจอโดยให้ด้านบนสุดของหน้าจออยู่ในระดับสายตาหรือต่ำกว่าเล็กน้อย และคุณสามารถมองหน้าจอได้ โดยไม่ต้องเอี้ยวตัว
ตำแหน่งเก้าอี้: ใช้เก้าอี้ที่รองรับแผ่นหลังของคุณและปรับความสูงได้ ใช้เกาอี้ที่ปรับให้พอดีกับท่าทางที่คุณต้องการ มากที่สุด
ตำแหน่งศีรษะ: พยายามให้ศีรษะและคออยู่ในท่าทางที่สบายและอยู่ตรงกลาง (แนวตั้ง หรือตั้งตรง)
ตำแหน่งการวางแขนและมือ: วางแขนช่วงระหว่างศอกกับข้อมือ ข้อมือ และแขนให้ผ่อนคลายและอยู่ตรงกลาง (แนวนอน) พิมพ์แบบสัมผัสเบาๆ อย่าออกกระแทกแป้นพิมพ์
การวางขา: จัดหน้าตักให้ขนานกับพื้นและวางเท้าแนบบนพื้นหรือที่พักเท้า
เปลี่ยนท่าทางในการทำงานของคุณเพื่อป้องกันความรู้สึกไม่สบายที่เกิดจากการนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน แบ่ง ช่วงพักสั้นๆ หลายครั้งเพื่อป้องกันความรู้สึกไม่สบายจากท่าทางการทำงาน
26 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

ข้อมูลการใช้งาน

Lenovo มุ่งมั่นที่จะมอบการเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีที่สะดวกยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน การมอง เห็น และผู้ใช้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว ในส่วนนี้ประกอบด้วยวิธีการที่ผู้ใช้เหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จาก คอมพิวเตอร์ของเขาได้มากที่สุด และคุณสามารถรับข้อมูลการใช้งานล่าสุดได้จากเว็บไซต์ต่อไปนี้ http://www.lenovo.com/accessibility
แป้นพิมพ์ลัด
ตารางต่อไปนี้ประกอบด้วยแป้นพิมพ์ลัดที่ช่วยให้คุณใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น
หมายเหตุ: ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแป้นพิมพ์ของคุณ เนื่องจากแป้นพิมพ์ลัดบางรายการต่อไปนี้อาจไม่พร้อมใช้งาน
แป้นพิมพ์ลัด ฟังก์ชัน
แป้นโลโก้ Windows + U เปิดศูนย์กลางความง่ายในการเข้าถึง
กดปุ่ม Shift ด้านขวาค้างไว้ 8 วินาที
กดปุ่ม Shift 5 ครั้ง
กดปุ่ม Num Lock ค้างไว้ 5 วินาที
Alt ด้านซ้าย + Shift ด้านซ้าย + Num Lock
Alt ด้านซ้าย + Shift ด้านซ้าย + PrtScn (หรือ PrtSc) เปิดหรือปิดความคมชัดสูง
เปิดหรือปิดคีย์ตัวกรอง
เปิดหรือปิดคีย์ติด
เปิดหรือปิดแป้นสลับ
เปิดหรือปิดแป้นเมาส์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ http://windows.microsoft.com/ แล้วค้นหาด้วยคำหลักต่อไปนี้ แป้นพิมพ์ลัด, การผสม
แป้นพิมพ์
, คีย์ลัด
ศูนย์กลางความง่ายในการเข้าถึง
ศูนย์กลางความง่ายในการเข้าถึงบนระบบปฏิบัติการ Windows เปิดโอกาสให้ผู้ใช้กำหนดค่าคอมพิวเตอร์ของพวกเขา ได้เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความเข้าใจ
ในการใช้งานศูนย์กลางความง่ายในการเข้าถึง ให้ทำดังนี้:
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้ว คลิก ศูนย์กลางความง่ายในการเข้าถึง
สำหรับ Windows 10: คลิก การตั้งค่า ความง่ายในการเข้าถึง
บทที่ 3. คุณและคอมพิวเตอร์ของคุณ 27
3. เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมด้วยการทำตามคำแนะนำที่ปรากฏบนหน้าจอ
ศูนย์กลางความง่ายในการเข้าถึงประกอบไปด้วยเครื่องมือต่อไปนี้:
แว่นขยาย
แว่นขยายเป็นยูทิลิตีที่มีประโยชน์ที่ช่วยขยายหน้าจอทั้งหน้าจอหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของหน้าจอเพื่อให้คุณสามารถ เห็นรายการต่างๆ ได้ดีขึ้น
ผู้บรรยาย
โปรแกรมผู้บรรยายคือ ตัวอ่านหน้าจอที่อ่านออกเสียงสิ่งที่แสดงบนหน้าจอและอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ เช่น ข้อความแสดงข้อผิดพลาด
แป้นพิมพ์บนหน้าจอ
หากคุณต้องการพิมพ์หรือป้อนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ด้วยเมาส์ จอยสติ๊ก หรืออุปกรณ์การชี้อื่นๆ แทนการใช้แป้น พิมพ์จริง คุณสามารถใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอได้ แป้นพิมพ์บนหน้าจอแสดงแป้นพิมพ์จริงที่มีแป้นมาตรฐาน ทั้งหมด
ความคมชัดสูง
ความคมชัดสูงเป็นคุณลักษณะที่เพิ่มความคมชัดของสีสำหรับบางส่วนของข้อความและรูปภาพบนหน้าจอ ด้วย เหตุนี้ รายการเหล่านั้นจะชัดเจนและระบุง่ายยิ่งขึ้น
แป้นพิมพ์ที่ปรับแต่งได้เฉพาะตัว
ปรับการตั้งค่าของแป้นพิมพ์เพื่อให้ใช้งานแป้นพิมพ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้แป้นพิมพ์เพื่อ ควบคุมตัวชี้และทำให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์แป้นพิมพ์ผสมบนแป้นพิมพ์ได้ง่ายขึ้น
เมาส์ที่ปรับแต่งได้เฉพาะตัว
ปรับการตั้งค่าของเมาส์เพื่อทำให้เมาส์ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวชี้ได้ และทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เมาส์จัดการหน้าต่างต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
การรู้จำเสียง
เปิดใช้การรู้จำเสียงเพื่อควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยเสียง
ด้วยการใช้เสียงของคุณเพียงอย่างเดียว คุณสามารถเริ่มต้นโปรแกรม เปิดเมนู คลิกวัตถุบนหน้าจอ เขียนข้อความบน เอกสาร และเขียนและส่งอีเมล ทุกสิ่งที่คุณทำได้ด้วยแป้นพิมพ์และเมาส์ก็สามารถทำได้ด้วยเสียงของคุณเช่นกัน
ในการใช้การรู้จำเสียง ให้ทำดังนี้:
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม
28 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
สำหรับ Windows 10: คลิก ระบบ Windows แผงควบคุม
3. ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้วคลิก การรู้จำเสียง
4. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
เทคโนโลยีตัวอ่านหน้าจอ
เทคโนโลยีตัวอ่านหน้าจอจะมุ่งเน้นที่อินเทอร์เฟซของโปรแกรมซอฟต์แวร์ ระบบข้อมูลความช่วยเหลือ และเอกสาร ออนไลน์ต่างๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอ่านหน้าจอ โปรดดูต่อไปนี้:
การใช้ PDF กับตัวอ่านหน้าจอ http://www.adobe.com/accessibility.html?promoid=DJGVE
การใช้ตัวอ่านหน้าจอ JAWS http://www.freedomscientific.com/jaws-hq.asp
การใช้ตัวอ่านหน้าจอ NVDA http://www.nvaccess.org/
ความละเอียดหน้าจอ
คุณสามารถทำให้ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏบนหน้าจออ่านง่ายด้วยการปรับความละเอียดหน้าจอคอมพิวเตอร์
ในการปรับความละเอียดหน้าจอ ให้ทำดังนี้:
1. คลิกขวาที่พื้นที่ว่างบนเดสก์ท็อป
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก ความละเอียดของหน้าจอ
สำหรับ Windows 10: คลิก การตั้งค่าการแสดงผล การแสดงผล
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
หมายเหตุ: การตั้งค่าความละเอียดต่ำเกินไปอาจทำให้ข้อความหรือรูปภาพบางอย่างไม่พอดีหน้าจอ
สามารถปรับขนาดสิ่งต่างๆ ได้
คุณสามารถทำให้อ่านสิ่งต่างๆ บนหน้าจอได้ง่ายด้วยการเปลี่ยนขนาดของสิ่งต่างๆ
ในการเปลี่ยนขนาดของสิ่งต่างๆ ให้ใช้เครื่องมือแว่นขยายในศูนย์กลางความง่ายในการเข้าถึง ดู “ศูนย์กลางความ ง่ายในการเข้าถึง” บนหน้าที่ 27
ในการเปลี่ยนขนาดของสิ่งต่างๆ เป็นการถาวรให้ทำดังนี้:
เปลี่ยนขนาดของรายการทั้งหมดบนหน้าจอ
บทที่ 3. คุณและคอมพิวเตอร์ของคุณ 29
สำหรับ Windows 7:
1. คลิกขวาที่พื้นที่ว่างบนเดสก์ท็อป
2. คลิก ความละเอียดของหน้าจอ ทําให้ข้อความและรายการอื่นๆ มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือ
เล็กลง
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อเปลี่ยนขนาดรายการ
4. คลิก นําไปใช้ คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ในครั้งถัดไปที่เข้าสู่ระบบปฏิบัติการ
สำหรับ Windows 10:
1. คลิกขวาที่พื้นที่ว่างบนเดสก์ท็อป
2. คลิก การตั้งค่าการแสดงผล การแสดงผล
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อเปลี่ยนขนาดรายการ สำหรับบางแอป การกำหนดค่าของคุณอาจยัง ไม่มีผลจนกว่าคุณจะลงชื่อออกและลงชื่อกลับเข้าอีกครั้ง
เปลี่ยนขนาดของสิ่งต่างๆ บนหน้าเว็บ
กดค้างที่ Ctrl แล้วกดปุ่มเครื่องหมายบวก (+) เพื่อขยายหรือกดปุ่มเครื่องหมายลบ (-) เพื่อลดขนาดข้อความ
เปลี่ยนขนาดของสิ่งต่างๆ บนเดสก์ท็อปหรือหน้าต่าง
หมายเหตุ: ฟังก์ชันนี้อาจใช้งานไม่ได้กับบางหน้าต่าง
หากเมาส์ของคุณมีลูกกลิ้ง กดค้างที่ Ctrl แล้วหมุนลูกกลิ้งเพื่อเปลี่ยนขนาดรายการ
ขั้วต่อมาตรฐานอุตสาหกรรม
คอมพิวเตอร์ของคุณมาพร้อมกับขั้วต่อตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ต่างๆ ได้
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งและการทำงานของขั้วต่อแต่ละตัว โปรดดู “ตำแหน่งของฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 1
โมเด็มการแปลง TTY/TDD
คอมพิวเตอร์ของคุณรองรับการใช้โมเด็มการแปลงการติดต่อสื่อสารด้วยข้อความผ่านโทรศัพท์ โทรคมนาคมสำหรับคนหูหนวก
(TDD) โมเด็มต้องเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์ TTY/TDD จากนั้น คุณ
(TTY) หรืออุปกรณ์
สามารถพิมพ์ข้อความบนคอมพิวเตอร์ และส่งไปยังโทรศัพท์ได้
เอกสารประกอบในรูปแบบที่เข้าถึงได้
Lenovo มีเอกสารประกอบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบที่เข้าถึงได้ เช่น ไฟล์ PDF ติดแท็กหรือไฟล์ HyperText Markup Language
(HTML) เอกสารประกอบในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการพัฒนาเพื่อผู้ใช้ที่มีความบกพร่องในการมอง
30 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
เห็นเพื่อให้อ่านเอกสารประกอบผ่านตัวอ่านหน้าจอได้ ซึ่งรูปภาพแต่ละรูปในเอกสารประกอบยังได้รวมข้อความเสริม เพื่อให้ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสามารถเข้าใจรูปภาพได้เมื่อใช้ตัวอ่านหน้าจอ

การทำความสะอาดคอมพิวเตอร์

ข้อควรระวัง: ถอดสื่อใดๆ ออกจากไดรฟ์และปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้งหมดและปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้น ถอดสายไฟออก จากเต้ารับไฟฟ้า และถอดสายเคเบิลทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
คุณควรทำตามวิธีปฏิบัติที่ดีในการทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นระยะๆ เพื่อปกป้องพื้นผิวและเพื่อให้ แน่ใจว่าการดำเนินงานปราศจากปัญหา ใช้น้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ และผ้าเปียกหมาดๆ ในการทำความสะอาดพื้น ผิวของเครื่องคอมพิวเตอร์
ฝุ่นที่สะสมทำให้ปัญหาเกี่ยวกับแสงจ้าเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น คุณจึงต้องทำความสะอาดหน้าจอเป็นครั้งคราว เช็ดหน้าจอ เบาๆ ด้วยผ้าแห้งที่นุ่ม หรือเป่าหน้าจอเพื่อกำจัดฝุ่งผงและอนุภาคที่เกาะอยู่อย่างหลวมๆ ชุบผ้าที่นุ่มและไม่เป็นขุย ด้วยน้ำยาทำความสะอาด LCD หรือน้ำยาทำความสะอาดกระจก แล้วเช็คหน้าจอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของหน้าจอ

การบำรุงรักษา

เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณจะทำงานให้คุณได้อย่างดีถ้าได้รับการเอาใจใส่และการดูแลรักษา ส่วนนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ การบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ดียิ่งขึ้น

การดูแลและการบำรุงรักษาเบื้องต้น

ต่อไปนี้คือประเด็นพื้นฐานเกี่ยวกับการรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง:
ให้คอมพิวเตอร์ของคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและแห้งอยู่เสมอ ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์วางอยู่บนพื้นผิวที่ เรียบและมั่นคง
อย่าวางสิ่งของปิดกั้นช่องระบายอากาศ ช่องระบายอากาศเหล่านี้จะระบายอากาศเพื่อป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์ ของคุณร้อนเกินไป
เก็บอาหารและเครื่องดื่มให้ห่างจากทุกส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เศษอาหารและคราบอาจทำให้แป้น พิมพ์และเมาส์ติดและการใช้งานไม่ได้
อย่าทำให้สวิตช์เปิดเครื่อง หรือตัวควบคุมอื่นๆ เปียก ความชื้นอาจทำลายชิ้นส่วนเหล่านี้ได้ และอาจเกิดอันตราย จากไฟฟ้า
ถอดสายไฟโดยจับที่ตัวปลั๊ก อย่าจับที่สาย
บทที่ 3. คุณและคอมพิวเตอร์ของคุณ 31

การบำรุงรักษาที่ดี

การดำเนินการบำรุงรักษาที่ดีเพียงเล็กน้อยก็ทำให้คุณสามารถรักษาประสิทธิภาพการทำงานที่ดีให้กับคอมพิวเตอร์ของ คุณ ปกป้องข้อมูลของคุณ และเตรียมพร้อมในกรณีที่คอมพิวเตอร์ล้มเหลว
ลบรายการในถังรีไซเคิลของคุณเป็นประจำ
ใช้คุณลักษณะการจัดเรียงข้อมูลบนดิสก์ใหม่หรือการปรับดิสก์ให้เหมาะสมที่สุดของระบบปฏิบัติการเป็นบางโอกาส เพื่อป้องกันปัญหาประสิทธิภาพการทำงานซึ่งเกิดจากไฟล์ที่มีการแยกส่วนมีจำนวนมากเกินไป
ลบรายการในโฟลเดอร์กล่องขาเข้า รายการที่ถูกส่ง และรายการที่ถูกลบในแอปพลิเคชันอีเมลของคุณเป็นประจำ
สร้างสำเนาการสำรองข้อมูลที่สำคัญในหน่วยความจำสื่อแบบถอดได้เป็นประจำ เช่น ดิสก์ และอุปกรณ์เก็บข้อมูล USB และจัดเก็บสื่อแบบถอดได้ในตำแหน่งที่ตั้งที่ปลอดภัย ความถี่ในการทำสำเนาการสำรองข้อมูลขึ้นอยู่กับ ระดับความสำคัญของข้อมูลที่มีต่อคุณหรือธุรกิจของคุณ
สำรองข้อมูลในไดรฟ์จัดเก็บเป็นประจำ ดู “ข้อมูลการกู้คืน” บนหน้าที่ 75
อัปเดตซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ไดรเวอร์อุปกรณ์ และระบบปฏิบัติการอยู่เสมอ ดู “ปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ของ คุณเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ” บนหน้าที่ 32
จัดทำสมุดบันทึก รายการอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ การอัปเดตไดรเวอร์ อุปกรณ์ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และสิ่งที่คุณดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา และปัญหาอื่นๆ ที่คุณอาจเคยพบ สาเหตุของปัญหาอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงในฮาร์ดแวร์ การเปลี่ยนแปลงในซอฟต์แวร์ หรือการดำเนินการอื่นๆ ที่ อาจเกิดขึ้น สมุดบันทึกสามารถช่วยคุณหรือเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของ Lenovo ทราบสาเหตุของปัญหาได้
สร้างดิสก์ Product Recovery ดู “ข้อมูลการกู้คืน” บนหน้าที่ 75 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ดิสก์ Product Recovery เพื่อคืนค่าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์กลับเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน

ปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ของคุณเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

ในการณีส่วนใหญ่ การมีแพทช์ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมซอฟต์แวร์ และไดรเวอร์อุปกรณ์ที่เป็นปัจจุบันถือเป็นวิธี ปฏิบัติที่ดี ส่วนนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีรับการอัปเดตล่าสุดสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ
การรับการอัปเดตระบบล่าสุด
ในการรับการอัปเดตระบบล่าสุดสำหรับคอมพิวเตอร์ ต้องแน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ของคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แล้วดำเนิน การอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
ใช้โปรแกรม Lenovo ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับการอัปเดตระบบ เช่น การอัปเดตโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์ การอัปเดต ซอฟต์แวร์ และการอัปเดต BIOS:
สำหรับ Windows 7: ใช้โปรแกรม System Update
สำหรับ Windows 10: ใช้โปรแกรม Lenovo Companion
32 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ในการเปิดโปรแกรม System Update หรือ Lenovo Companion โปรดดู “การเข้าถึงโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ ของคุณ” บนหน้าที่ 15 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้โปรแกรม โปรดดูที่ระบบวิธีใช้ของโปรแกรม
ใช้ Windows Update เพื่อรับการอัปเดตระบบ เช่น การแก้ไขการรักษาความปลอดภัย ส่วนประกอบของ Windows เวอร์ชันใหม่ และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก
แล้วคลิก Windows Update
สำหรับ Windows 10: คลิก การตั้งค่า การอัปเดตและความปลอดภัย Windows
Update
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
หมายเหตุ: ไดรเวอร์อุปกรณ์จาก Windows Update อาจไม่ได้รับการทดสอบจาก Lenovo ขอแนะนำให้คุณรับ โปรแกรมควบคุมอุปกรณ์โดยใช้โปรแกรม Lenovo หรือจากเว็บไซต์ Lenovo ที่ http://www.lenovo.com/support

การเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณ

ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์ ให้ปฏิบัติตามข้อควรระวังต่อไปนี้:
1. สำรองข้อมูลอในไดรฟ์จัดเก็บ ดู “การบำรุงรักษาที่ดี” บนหน้าที่ 32
2. ถอดสื่อใดๆ ออกจากไดรฟ์และปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้งหมดและปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้น ถอดสายไฟออกจาก เต้ารับไฟฟ้า และถอดสายเคเบิลทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
3. หากคุณได้เก็บกล่องและวัสดุบรรจุภัณฑ์เมื่อตอนซื้อเครื่องไว้ ให้ใช้บรรจุอุปกรณ์เหล่านั้น ถ้าคุณใช้กล่องกระ ดาษอื่นๆ ให้รองอุปกรณ์ด้วยวัสดุกันกระแทกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย
การย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังประเทศหรือภูมิภาคอื่น
เมื่อคุณย้ายคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังประเทศหรือภูมิภาคอื่น คุณต้องคำนึงถึงมาตรฐานไฟฟ้าในท้องถิ่น หากรูปแบบ เต้ารับไฟฟ้าในท้องถิ่นแตกต่างจากประเภทที่คุณกำลังใช้ในปัจจุบัน โปรดติดต่อศูนย์บริการลูกค้า Lenovo เพื่อซื้ออะ แดปเตอร์ปลั๊กไฟ หรือสายไฟใหม่ หากต้องการทราบรายการหมายเลขโทรศัพท์ฝ่ายสนับสนุนของ Lenovo โปรดไปที่ http://www.lenovo.com/support/phone หากไม่พบหมายเลขโทรศัพท์ฝ่ายสนับสนุนสำหรับประเทศหรือภูมิภาคของ คุณ โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่าย Lenovo
บทที่ 3. คุณและคอมพิวเตอร์ของคุณ 33
34 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

บทที่ 4. ความปลอดภัย

บทนี้ประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้:
“การล็อคคอมพิวเตอร์ของคุณ” บนหน้าที่ 35
“การดูและการเปลี่ยนการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยในโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 38
“การใช้รหัสผ่านและบัญชี Windows” บนหน้าที่ 38
“การใช้การตรวจสอบลายนิ้วมือ” บนหน้าที่ 39
“การใช้สวิตช์ยึดฝาครอบ” บนหน้าที่ 39
“การใช้ไฟร์วอลล์” บนหน้าที่ 40
“การป้องกันข้อมูลจากไวรัส” บนหน้าที่ 40
“ซอฟต์แวร์ Computrace Agent ที่ฝังในเฟิร์มแวร์” บนหน้าที่ 41
“Trusted Platform Module (TPM)” บนหน้าที่ 41
“Intel BIOS guard” บนหน้าที่ 41

การล็อคคอมพิวเตอร์ของคุณ

ส่วนนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการล็อคคอมพิวเตอร์ของคุณกับอุปกรณ์ล็อค เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัย

การล็อคฝาครอบคอมพิวเตอร์

การล็อคฝาครอบคอมพิวเตอร์ช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าใช้งานภายในระบบของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ของคุณมาพร้อมกับที่คล้องตัวล็อค เพื่อไม่ให้สามารถถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์ได้เมื่อติดตั้งตัวล็อค
© Copyright Lenovo 2016, 2017 35
รูปภาพ 7. การติดตั้งตัวล็อค

การเชื่อมต่อสายล็อคแบบ Kensington

คุณสามารถใช้สายล็อคแบบ Kensington เพื่อล็อคคอมพิวเตอร์ไว้กับโต๊ะทำงาน โต๊ะ หรือสิ่งของอื่นที่ไม่ได้ติดตั้งถาวร สายล็อคติดตั้งกับช่องเสียบสายล็อคเครื่องที่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์ สายล็อคสามารถใช้งานได้กับกุญแจหรือกุญแจ คล้องแบบรหัสได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทที่คุณเลือก สายล็อคยังสามารถล็อคปุ่มที่ใช้ในการเปิดฝาครอบคอมพิวเตอร์ได้ ด้วย นี่คือการล็อคประเภทเดียวกันกับล็อคที่ใช้ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจำนวนมาก คุณสามารถสั่งซื้อสายล็อคดังกล่าว ได้โดยตรงจาก Lenovo โดยการค้นหา Kensington ที่: http://www.lenovo.com/support
36 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
รูปภาพ 8. สายล็อคแบบ Kensington

การติดตั้งสายล็อค

สามารถใช้สายล็อคล็อคอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แป้นพิมพ์ และเมาส์ โดยการล็อคสายอุปกรณ์ไว้กับคอมพิวเตอร์ สายล็อค เชื่อมต่อกับช่องเสียบสายล็อคที่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์ ดู “มุมมองด้านหลัง” บนหน้าที่ 3
ในการติดตั้งสายล็อค ให้ดำเนินการดังนี้:
1. สอดคลิป
1 เข้าไปในข่องเสียบสายล็อค 4
2. ดึงสายที่คุณต้องการล็อคผ่านช่องในสายล็อค
3. กดคลิป
2 เข้าไปในช่องเสียบสายล็อค 3 จนกว่าจะล็อคเข้าที่
บทที่ 4. ความปลอดภัย 37
รูปภาพ 9. การติดตั้งสายล็อค

การดูและการเปลี่ยนการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยในโปรแกรม Setup Utility

ในการดูและเปลี่ยนการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยในโปรแกรม Setup Utility ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. เลือก Security
3. ทำตามคำแนะนำทางด้านขวาของหน้าจอเพื่อดูและเปลี่ยนการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัย คุณสามารถดู “การใช้โปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43 เพื่อรับข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการตั้งค่าการรักษาความปลอดภัย หลัก
4. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter

การใช้รหัสผ่านและบัญชี Windows

คุณสามารถใช้รหัสผ่าน BIOS และบัญชี Windows เพื่อป้องกันการเข้าใช้งานคอมพิวเตอร์และข้อมูลของคุณโดยไม่ได้ รับอนุญาต
ในการใช้รหัสผ่าน BIOS โปรดดู “การใช้รหัสผ่าน BIOS” บนหน้าที่ 47
38 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ในการใช้บัญชี Windows ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้:
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม บัญชีผู้ใช้ สำหรับ Windows 10: คลิก การตั้งค่า ศูนย์ปฏิบัติการ
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

การใช้การตรวจสอบลายนิ้วมือ

หากแป้นพิมพ์ของคุณมีเครื่องอ่านลายนิ้วมือ คุณสามารถใช้การตรวจสอบลายนิ้วมือในการเปลี่ยนรหัสผ่านเพื่อให้ผู้ใช้ เข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย ในการตรวจสอบลายนิ้วมือ ก่อนอื่นคุณต้องลงบันทึกลายนิ้วมือของคุณ และเชื่อมโยงลาย นิ้วมือกับรหัสผ่านของคุณ (เช่น รหัสผ่านในการเปิดเครื่อง รหัสผ่านฮาร์ดดิสก์ และรหัสผ่าน Windows) ใช้เครื่องอ่าน ลายนิ้วมือ และโปรแกรมลายนิ้วมือเพื่อดำเนินการขั้นตอนนี้ให้เสร็จสมบูรณ์
ในการตรวจสอบลายนิ้วมือ ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
สำหรับ Windows 7: ใช้โปรแกรม Fingerprint Manager Pro หรือ ThinkVantage Fingerprint Software ที่ Lenovo ให้มา ในการเปิดโปรแกรม โปรดดูที่ “การเข้าถึงโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ของคุณ” บนหน้าที่ 15 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้โปรแกรม โปรดดูที่ระบบวิธีใช้ของโปรแกรม
สำหรับ Windows 10: ใช้เครื่องมือลายนิ้วมือที่ระบบปฏิบัติการ Windows ให้มา คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
แล้วคลิก การตั้งค่า บัญชี ตัวเลือกการลงชื่อเข้าใช้ ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
ในการใช้เครื่องอ่านลายนิ้วมือ โปรดดูเอกสารที่ให้มาพร้อมกับแป้นพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือในเว็บไซต์บริการสนับสนุนของ Lenovo ที่ http://www.lenovo.com/support/keyboards

การใช้สวิตช์ยึดฝาครอบ

สวิตช์ยึดฝาครอบช่วยป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์ของคุณเข้าสู่ระบบปฏิบัติการเมื่อไม่ได้ติดตั้งหรือปิดฝาครอบ คอมพิวเตอร์อย่างเหมาะสม
ในการใช้สวิตช์ยึดฝาครอบ ให้เปิดใช้งานขั้วต่อสวิตช์ยึดฝาครอบบนแผงระบบก่อน ในการจัดการให้สำเร็จ ให้ดำเนิน การดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. เลือก Security Chassis Intrusion Detection และกด Enter
บทที่ 4. ความปลอดภัย 39
3. เลือก Enabled แล้วกด Enter
4. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น
พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter
สวิตช์ยึดฝาครอบเริ่มทำงาน หากสวิตช์ตรวจพบว่าฝาครอบคอมพิวเตอร์ติดตั้งหรือปิดไม่ถูกต้อง ข้อความแสดงข้อผิด พลาดจะแสดงขึ้นเมื่อคุณเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ในการแก้ไขข้อผิดพลาดและเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ ให้ดำเนินการดังนี้:
1. ติดตั้งหรือปิดฝาครอบคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้อง ดู บทที่ 7 “การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 79
2. เริ่มโปรแกรม Setup Utility แล้วออกจากโปรแกรม ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43 และ “การออกจากโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 50

การใช้ไฟร์วอลล์

ไฟร์วอลล์อาจเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับของการรักษาความปลอดภัยที่ จำเป็น ไฟร์วอลล์ทำงานตามกฎชุดหนึ่งในการตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อขาเข้าและขาออกได้รับอนุญาต หาก คอมพิวเตอร์ของคุณติดตั้งโปรแกรมไฟร์วอลล์อยู่ก่อนแล้ว โปรแกรมนี้จะช่วยป้องกันภัยคุกคามความปลอดภัยทาง อินเทอร์เน็ต การเข้าใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต การบุกรุก และการโจมตีทางอินเทอร์เน็ต และยังปกป้องความเป็นส่วน ตัวของคุณอีกด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้โปรแกรมไฟร์วอลล์ โปรดอ่านข้อมูลระบบความช่วยเหลือ ของโปรแกรมไฟร์วอลล์ของคุณ
ในการใช้ไฟร์วอลล์ Windows ให้ดำเนินการดังนี้:
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม
สำหรับ Windows 10: คลิก ระบบ Windows แผงควบคุม
3. ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้วคลิก ไฟร์วอลล์ Windows
4. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

การป้องกันข้อมูลจากไวรัส

คอมพิวเตอร์ของคุณได้รับการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสอยู่ก่อนแล้วเพื่อช่วยคุณป้องกัน ตรวจหา และกำจัดไวรัส
Lenovo จัดให้มีซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเวอร์ชันสมบูรณ์ในคอมพิวเตอร์ของคุณพร้อมการสมัครสมาชิกฟรี 30 วัน หลัง จาก 30 วัน คุณสามารถต่อใบอนุญาตเพื่อรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสต่อไปได้
40 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
หมายเหตุ: ไฟล์นิยามไวรัสต้องได้รับการดูแลให้เป็นปัจจุบันเสมอเพื่อป้องกันไวรัสใหม่ๆ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส โปรดอ่านข้อมูลระบบความช่วยเหลือของซอฟต์แวร์ ป้องกันไวรัสของคุณ

ซอฟต์แวร์ Computrace Agent ที่ฝังในเฟิร์มแวร์

ซอฟต์แวร์ Computrace Agent คือโซลูชันการจัดการสินทรัพย์ IT และการกู้คืนการโจรกรรมคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ จะตรวจสอบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในคอมพิวเตอร์หรือไม่ เช่น ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือตำแหน่งในการเรียกเข้าของ คอมพิวเตอร์ คุณอาจต้องซื้อการสมัครสมาชิกเพื่อเปิดใช้งานซอฟต์แวร์ Computrace Agent

Trusted Platform Module (TPM)

TPM คือโปรเซสเซอร์ที่มีการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจัดเก็บคีย์การเข้ารหัสที่ปกป้องข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ใน คอมพิวเตอร์ของคุณตามลำดับ

Intel BIOS guard

โมดูล BIOS guard จะตรวจสอบด้านระบบการเข้ารหัสลับการอัปเดต BIOS ทั้งหมดไปเป็นการแฟลช BIOS ของ ระบบ ดังนั้น มัลแวร์จะถูกบล็อกไม่ให้โจมตี BIOS
บทที่ 4. ความปลอดภัย 41
42 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง

บทนี้ประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้:
“การใช้โปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
“การอัปเดตและการกู้คืน BIOS” บนหน้าที่ 50
“การกำหนดค่า RAID” บนหน้าที่ 52

การใช้โปรแกรม Setup Utility

โปรแกรม Setup Utility ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบและเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าต่างๆ ของคอมพิวเตอร์คุณได้ ส่วนนี้ จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการกำหนดการตั้งค่าหลักบางส่วนในโปรแกรม Setup Utility
หมายเหตุ: การตั้งค่าระบบปฏิบัติการอาจแทนที่การตั้งค่าใดๆ ที่คล้ายกันในโปรแกรม Setup Utility

การเปิดโปรแกรม Setup Utility

ในการเปิดโปรแกรม Setup Utility โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
1. เปิดคอมพิวเตอร์หรือเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่
2. ก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มการทำงาน ให้กดปุ่ม F1 หรือ Fn+F1 (ขึ้นอยู่กับแป้นพิมพ์ที่ใช้) ซ้ำๆ สถานการณ์ ใดสถานการณ์หนึ่งต่อไปนี้จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าโหมดการแสดงผล Setup Utility:
โหมดข้อความ: โปรแกรม Setup Utility เปิดขึ้นมา
โหมดกราฟิก: หน้าจอเริ่มจะปรากฏขึ้นมา ให้เลือก Setup เพื่อเปิดโปรแกรม Setup Utility
หมายเหตุ: หากมีการตั้งค่ารหัสผ่าน BIOS โปรแกรม Setup Utility จะไม่เปิดจนกว่าคุณจะป้อนรหัสผ่านที่ถูก ต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ “การใช้รหัสผ่าน BIOS” บนหน้าที่ 47
หากต้องการดูและเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าต่างๆ ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

การเปลี่ยนโหมดการแสดงผลของโปรแกรม Setup Utility

คุณเลือกใช้โปรแกรม Setup Utility ในโหมดกราฟิกหรือโหมดข้อความได้ตามต้องการ
โหมดข้อความ: เลือกตัวเลือกต่างๆ ได้ด้วยแป้นพิมพ์เท่านั้น ปุ่มที่ใช้ในการดำเนินงานต่างๆ จะแสดงที่ด้านล่าง ของหน้าจอ
โหมดกราฟิก: เลือกตัวเลือกต่างๆ ได้ด้วยแป้นพิมพ์และเมาส์
© Copyright Lenovo 2016, 2017 43
หมายเหตุ: ตัวเลือก Serial Port Console Redirection มีให้ใช้งานในโหมดข้อความเท่านั้น
หากต้องการเปลี่ยนโหมดการแสดงผลของโปรแกรม Setup Utility ให้ทำดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. จากอินเทอร์เฟสหลักของโปรแกรม ให้มองหาตัวเลือก Setup mode select แล้วเลือก Graphic หรือ Text
3. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น
พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter

การเปลี่ยนภาษาที่แสดงของโปรแกรม Setup Utility

โปรแกรม Setup Utility รองรับภาษาที่แสดงสามภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และภาษาจีนตัวย่อ
หากต้องการเปลี่ยนภาษาที่แสดงของโปรแกรม Setup Utility ให้ทำดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. จากอินเทอร์เฟซหลักของโปรแกรม ให้มองหาตัวเลือก System Language แล้วเลือกภาษาที่แสดงตามที่คุณ
ต้องการ

การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานอุปกรณ์

ส่วนนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการเข้าถึงของผู้ใช้ในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (เช่น ขั้วต่อ USB หรือไดรฟ์ จัดเก็บ)
หากต้องการเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานอุปกรณ์ ดำเนินการดังต่อไปนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. เลือก Devices
3. เลือกอุปกรณ์ที่คุณต้องการเปิดใช้งาน หรือปิดใช้งาน แล้วกดป้อน
4. เลือกการตั้งค่าที่ต้องการ แล้วกดป้อน
5. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น
พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter

การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานคุณลักษณะ Automatic Power On ของ คอมพิวเตอร์

รายการ Automatic Power On ในโปรแกรม Setup Utility มีตัวเลือกหลากหลายเพื่อให้คุณเริ่มต้นระบบคอมพิวเตอร์ โดยอัตโนมัติ
44 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ในการเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานคุณลักษณะ Automatic Power On ให้ดำเนินการต่อไปนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. เลือก Power Automatic Power On แล้วกดป้อน
3. เลือกคุณลักษณะที่คุณต้องการเปิดใช้งาน หรือปิดใช้งาน แล้วกดป้อน
4. เลือกการตั้งค่าที่ต้องการ แล้วกดป้อน
5. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น
พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter

การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานโหมดที่สอดคล้องกับ ErP LPS

คอมพิวเตอร์ Lenovo ตรงตามข้อกำหนดด้านอีโค่ดีไซน์ของข้อบังคับ ErP Lot 3 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ไปที่: http://www.lenovo.com/ecodeclaration
คุณสามารถเปิดใช้งานโหมดที่สอดคล้องกับ ErP LPS ในโปรแกรม Setup Utility เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าเมื่อคอมพิวเตอร์ ของคุณปิดอยู่หรืออยู่ในโหมดสลีป
หากต้องการเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานโหมดที่สอดคล้องกับ ErP LPS ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. เลือก Power Enhanced Power Saving Mode และกด Enter
3. เลือก Enabled หรือ Disabled โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ แล้วกด Enter หากคุณเลือก Enabled
คุณยังจำเป็นต้องปิดใช้งานคุณลักษณะ Wake on LAN ดู “การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานคุณลักษณะ Automatic Power On ของคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 44
4. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น
พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter
หลังจากเปิดใช้งานโหมดที่สอดคล้องกับ ErP LPS แล้ว คุณสามารถเรียกคอมพิวเตอร์กลับสู่การทำงานโดยทำหนึ่งใน วิธีต่อไปนี้:
กดปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง
เปิดใช้งานคุณลักษณะ Wake Up on Alarm เพื่อเรียกคอมพิวเตอร์ของคุณกลับสู่การทำงานในเวลาที่กำหนดไว้ ดู “การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานคุณลักษณะ Automatic Power On ของคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 44
เปิดใช้งานคุณลักษณะ After Power Loss เพื่อเรียกคอมพิวเตอร์ของคุณกลับสู่การทำงานเมื่อแหล่งจ่ายไฟกลับ มาทำงานหลังจากไฟฟ้าดับกะทันหัน
ในการเปิดใช้งานคุณลักษณะ After Power Loss ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง 45
2. เลือก Power After Power Loss และกด Enter
3. เลือก Power On แล้วกด Enter
4. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับ
แป้นพิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter

การเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่า

เมื่อเปิดใช้งานการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่า หาก POST ตรวจพบการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าของ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์บางตัว (เช่น ไดรฟ์จัดเก็บ หรือโมดูลหน่วยความจำ) ข้อความแสดงข้อผิดพลาดจะแสดงขึ้น
ในการเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่า ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. เลือก Security Configuration Change Detection และกด Enter
3. เลือกการตั้งค่าที่ต้องการ แล้วกดป้อน
4. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น
พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter
ในการหลีกเลี่ยงข้อความแสดงข้อผิดพลาด และเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้:
กด F2 หรือ Fn+F2 (ขึ้นอยู่กับแป้นพิมพ์ที่ใช้)
เริ่มโปรแกรม Setup Utility แล้วออกจากโปรแกรม ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43 และ “การ ออกจากโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 50

การเปลี่ยนการตั้งค่า BIOS ก่อนจะติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่

การตั้งค่า BIOS แตกต่างกันไปตามระบบปฏิบัติการ เปลี่ยนการตั้งค่า BIOS ก่อนจะติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่
ในการเปลี่ยนการตั้งค่า BIOS ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. จากเมนูหลักของโปรแกรม Setup Utility ให้เลือก Exit OS Optimized Default
3. ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่จะติดตั้ง:
ในการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 (64 บิต) ให้เลือก Enabled
ในการติดตั้งระบบปฏิบัติการอื่นที่ไม่ใช่ Windows 10 (64 บิต) ให้เลือก Disabled
4. เลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดง แล้วกด Enter เพื่อยืนยันการเลือกของคุณ
46 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
5. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น
พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter

การใช้รหัสผ่าน BIOS

คุณสามารถตั้งค่ารหัสผ่านเพื่อป้องกันการเข้าใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตในเครื่องคอมพิวเตอร์และข้อมูลของคุณ โดย การใช้โปรแกรม Setup Utility
คุณไม่จำเป็นต้องตั้งค่ารหัสผ่านใดๆ เพื่อใช้คอมพิวเตอร์ของคุณ อย่างไรก็ตาม การใช้รหัสผ่านจะช่วยเพิ่มการรักษา ความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ หากคุณตัดสินใจที่จะตั้งค่ารหัสผ่าน โปรดอ่านหัวข้อต่อไปนี้
ประเภทรหัสผ่าน
ประเภทรหัสผ่านต่อไปนี้จะมีให้ใช้ในโปรแกรม Setup Utility:
รหัสผ่านในการเปิดเครื่อง เมื่อมีการตั้งค่ารหัสผ่านในการเปิดเครื่อง คุณจะได้รับแจ้งให้ป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องทุกครั้งที่เปิดคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้อง
รหัสผ่านผู้ดูแลระบบ การตั้งค่ารหัสผ่านผู้ดูแลระบบจะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเปลี่ยนการตั้งค่ากำหนดค่า หากคุณรับผิด ชอบในการดูแลรักษาการตั้งค่าการกำหนดค่าของคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง คุณอาจต้องการตั้งค่ารหัสผ่านผู้ดูแล ระบบ
เมื่อมีการตั้งค่ารหัสผ่านผู้ดูแลระบบ คุณจะได้รับแจ้งให้ป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องทุกครั้งที่คุณพยายามจะเข้าใช้งาน โปรแกรม Setup Utility โปรแกรม Setup Utility จะไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะป้อนพ์รหัสผ่านที่ถูกต้อง
หากมีการกำหนดทั้งรหัสผ่านในการเปิดเครื่องและรหัสผ่านผู้ดูแลระบบ คุณสามารถป้อนรหัสใดรหัสหนึ่งก็ได้ อย่างไรก็ตาม คุณต้องใช้รหัสผ่านผู้ดูแลระบบในการเปลี่ยนการตั้งค่าการกำหนดค่า
รหัสผ่านฮาร์ดดิสก์ การตั้งค่ารหัสผ่านฮาร์ดดิสก์จะป้องกันการเข้าถึงข้อมูลบนไดรฟ์จัดเก็บภายในโดยไม่ได้รับอนุญาต (เช่น ฮาร์ด ดิสก์ไดรฟ์) เมื่อมีการตั้งค่ารหัสผ่านฮาร์ดดิสก์ คุณจะได้รับแจ้งให้ป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องทุกครั้งที่คุณพยายามจะ เข้าใช้งานไดรฟ์จัดเก็บ
หมายเหตุ:
หลังจากคุณตั้งค่ารหัสผ่านฮาร์ดดิสก์ ข้อมูลของคุณบนไดรฟ์จัดเก็บจะได้รับการป้องกัน แม้ไดรฟ์จัดเก็บถูก
ถอดออกจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งและนำไปติดตั้งในคอมพิวเตอร์อีกเครื่องก็ตาม
หากคุณลืมรหัสผ่านฮาร์ดดิสก์ จะไม่สามารถรีเซ็ตรหัสผ่านหรือกู้คืนข้อมูลจากไดรฟ์จัดเก็บได้
บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง 47
การกำหนดรหัสผ่าน
รหัสผ่านอาจเป็นตัวอักษรและตัวเลขใดๆ ที่รวมกันได้ถึง 64 อักขระ เพื่อการรักษาความปลอดภัย ขอแนะนำให้ใช้รหัส ผ่านที่ยากและไม่สามารถคาดเดาได้โดยง่าย
หมายเหตุ: รหัสผ่านโปรแกรม Setup Utility ไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์ใหญ่หรือตัวพิมพ์เล็ก
ในการกำหนดรหัสผ่านที่ยาก ใช้คำแนะนำต่อไปนี้:
มีความยาวอักขระอย่างน้อยแปดตัว
มีตัวอักษรอย่างน้อยหนึ่งตัวและตัวเลขอย่างน้อยหนึ่งตัว
ต้องไม่ใช่ชื่อหรือชื่อผู้ใช้ของคุณ
ต้องไม่ใช่คำทั่วไปหรือชื่อทั่วไป
ต้องแตกต่างจากรหัสผ่านก่อนหน้านี้ของคุณอย่างมาก
การตั้งค่า การเปลี่ยน และการลบรหัสผ่าน
ในการตั้งค่า เปลี่ยน หรือลบรหัสผ่าน ใช้คำแนะนำต่อไปนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. เลือก Security
3. เลือก Set Power-On Password, Set Administrator Password หรือ Hard Disk Password แล้วกด
Enter ขึ้นอยู่กับประเภทรหัสผ่าน
4. ทำตามคำแนะนำทางด้านขวาของหน้าจอเพื่อตั้งค่า เปลี่ยน หรือลบรหัสผ่าน
หมายเหตุ: รหัสผ่านอาจเป็นตัวอักษรและตัวเลขใดๆ ที่รวมกันได้ถึง 64 อักขระ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ “การกำหนดรหัสผ่าน” บนหน้าที่ 48
5. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น
พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter
การล้างรหัสผ่านที่สูญหายหรือลืม (การล้าง CMOS)
ส่วนนี้จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีล้างรหัสผ่านที่สูญหายหรือลืม เช่น รหัสผ่านผู้ใช้
ในการล้างรหัสผ่านที่สูญหายหรือลืม ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณ ดู “การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 80
2. ค้นหาจัมเปอร์ Complementary Metal Oxide Semiconductor (ล้าง CMOS) /การกู้คืนบนแผงระบบ ดู “ชิ้น ส่วนต่างๆ บนแผงระบบ” บนหน้าที่ 6
3. ย้ายจัมเปอร์จากตำแหน่งมาตรฐาน (พิน 1 และพิน 2) ไปยังตำแหน่งการบำรุงรักษา (พิน 2 และพิน 3)
48 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
4. ติดตั้งฝาครอบคอมพิวเตอร์กลับเข้าที่ และเชื่อมต่อสายไฟ ดู บทที่ 7 “การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์” บน หน้าที่ 79
5. เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และปล่อยไว้ประมาณ 10 วินาที จากนั้น ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์โดยกดปุ่มเปิด/ปิด เครื่องค้างไว้ประมาณห้าวินาที
6. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 และขั้นตอนที่ 2
7. ย้ายจัมเปอร์ล้าง CMOS /การกู้คืนกลับไปที่ตำแหน่งมาตรฐาน (พิน 1 และพิน 2)
8. ติดตั้งฝาครอบคอมพิวเตอร์กลับเข้าที่ และเชื่อมต่อสายไฟ

การเลือกอุปกรณ์เริ่มต้นระบบ

หากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ได้เริ่มต้นขึ้นจากอุปกรณ์อย่างที่คาดไว้ คุณสามารถเลือกที่จะเปลี่ยนลำดับอุปกรณ์การเริ่ม ต้นระบบถาวร หรือเลือกอุปกรณ์การเริ่มต้นระบบชั่วคราวได้
การเปลี่ยนแปลงลำดับอุปกรณ์การเริ่มต้นระบบอย่างถาวร
ในการเปลี่ยนแปลงลำดับอุปกรณ์การเริ่มต้นระบบอย่างถาวร ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้:
1. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์จัดเก็บ:
หากเป็นอุปกรณ์จัดเก็บภายใน ให้ไปที่ขั้นตอนที่ 2
หากอุปกรณ์จัดเก็บเป็นแผ่นดิสก์ ตรวจดูให้แน่ใจว่าเปิดคอมพิวเตอร์เปิดอยู่ จากนั้นใส่แผ่นดิสก์ลงในไดรฟ์
แบบออปติคัล
หากอุปกรณ์จัดเก็บเป็นอุปกรณ์ภายนอกที่ไม่ใช่แผ่นดิสก์ ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์จัดเก็บกับคอมพิวเตอร์
2. เปิดโปรแกรม Setup Utility โปรดดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
3. เลือก Startup
4. ทำตามคำแนะนำทางด้านขวาของหน้าจอเพื่อเปลี่ยนแปลงลำดับอุปกรณ์เริ่มต้นระบบ
5. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter
การเลือกอุปกรณ์เริ่มต้นระบบชั่วคราว
หมายเหตุ: บางดิสก์และบางไดรฟ์จัดเก็บเท่านั้นที่สามารถบูตได้
ในการเลือกอุปกรณ์การเริ่มต้นระบบชั่วคราว ให้ดำเนินการดังนี้:
1. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์จัดเก็บ:
หากเป็นอุปกรณ์จัดเก็บภายใน ให้ไปที่ขั้นตอนที่ 2
หากอุปกรณ์จัดเก็บเป็นแผ่นดิสก์ ตรวจดูให้แน่ใจว่าเปิดคอมพิวเตอร์เปิดอยู่ จากนั้นใส่แผ่นดิสก์ลงในไดรฟ์
แบบออปติคัล
บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง 49
หากอุปกรณ์จัดเก็บเป็นอุปกรณ์ภายนอกที่ไม่ใช่แผ่นดิสก์ ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์จัดเก็บกับคอมพิวเตอร์
2. เปิดคอมพิวเตอร์หรือเริ่มระบบใหม่ ก่อนที่ Windows จะเริ่มการทำงาน ให้กดปุ่ม F12 หรือ Fn+F12 (ขึ้นอยู่ กับแป้นพิมพ์ที่ใช้) ซ้ำๆ จนกว่า Boot Menu จะปรากฏขึ้น
3. เลือกอุปกรณ์จัดเก็บที่ต้องการ และกดป้อน จากนั้น คอมพิวเตอร์จะเริ่มต้นระบบจากอุปกรณ์ที่คุณเลือก
หากคุณต้องการเลือกอุปกรณ์เริ่มระบบถาวร ให้เลือก Enter Setup บน Boot Menu แล้วกด Enter เพื่อเริ่มโปรแกรม Setup Utility สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเลือกอุปกรณ์เริ่มต้นระบบถาวร โปรดดูที่ “การเปลี่ยนแปลงลำดับ อุปกรณ์การเริ่มต้นระบบอย่างถาวร” บนหน้าที่ 49

การปรับเปลี่ยนระดับความเร็วพัดลม

ตัวเลือก Fan Control Stepping ช่วยให้คุณปรับประสิทธิภาพในการระบายความร้อนของคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งมีให้เลือก ตั้งแต่ระดับ 1 ถึง 7 โดยระดับความเร็วพัดลมที่สูงขึ้นจะทำให้ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนดีขึ้นแต่ระดับเสียง ในการทำงานจะดังกว่า
หากต้องการปรับเปลี่ยนระดับความเร็วพัดลม ให้ทำดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. เลือก Power Fan Control Stepping และกด Enter
3. เลือกระดับความเร็วพัดลมที่ต้องการแล้วกด Enter
4. หากต้องการบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup Utility ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้น พิมพ์ที่ใช้) และเลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter

การออกจากโปรแกรม Setup Utility

ในการออกจากโปรแกรม Setup Utility โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
หากต้องการบันทึกการตั้งค่าใหม่ ให้กด F10 หรือ Fn+F10 (ขึ้นอยู่กับแป้นพิมพ์ที่ใช้) และเลือก ใช่ ในหน้าต่างที่
แสดงขึ้นมา แล้วกด Enter
หากไม่ต้องการบันทึกการตั้งค่าใหม่ ให้เลือก Exit Discard Changes and Exit และกด Enter จากนั้น
เลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดง แล้วกดป้อน

การอัปเดตและการกู้คืน BIOS

BIOS คือโปรแกรมแรกที่คอมพิวเตอร์เรียกใช้งานเมื่อคุณเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ BIOS เตรียมใช้งานส่วนประกอบ ฮาร์ดแวร์ และโหลดระบบปฏิบัติการและโปรแกรมอื่นๆ
50 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

การอัปเดต BIOS

เมื่อคุณติดตั้งโปรแกรม อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ หรือไดรเวอร์อุปกรณ์ใหม่ คุณอาจได้รับข้อความให้อัปเดต BIOS คุณสามา รถอัปเดต BIOS จากระบบปฏิบัติการของคุณ หรือดิสก์การอัปเดตแบบแฟลช (มีมาให้เฉพาะบางรุ่น)
ในการอัปเดต BIOS ให้ดำเนินการดังนี้:
1. ไปที่ http://www.lenovo.com/support
2. ในการอัปเดต BIOS จากระบบปฏบัติการ ให้ดาวน์โหลดโปรแกรมควบคุมการอัปเดต BIOS แบบแฟลชตาม เวอร์ชันระบบปฏิบัติการ ในการอัปเดต BIOS จากดิสก์การอัปเดตแบบแฟลช ให้ดาวน์โหลดเวอร์ชันอิมเมจ ISO (ใช้เพื่อสร้างดิสก์การอัปเดตแบบแฟลช) จากนั้น ดาวน์โหลดคำแนะนำการติดตั้งสำหรับโปรแกรมควบคุม การอัปเดต BIOS แบบแฟลช
3. พิมพ์คำแนะนำการติดตั้งที่คุณดาวน์โหลด และทำตามคำแนะนำเพื่ออัปเดต BIOS
หมายเหตุ: หากคุณต้องการอัปเดต BIOS จากดิสก์การอัปเดตแบบแฟลช คำแนะนำการติดตั้งอาจไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ วิธีบันทึกดิสก์การอัปเดต ดู “การบันทึกดิสก์” บนหน้าที่ 21

การกู้คืนจากความล้มเหลวในการอัปเดต BIOS

ในการกู้คืนจากความล้มเหลวในการอัปเดต BIOS ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณ ดู “การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 80
2. ค้นหาจัมเปอร์ล้าง CMOS /การกู้คืนบนแผงระบบ ดู “ตำแหน่งของฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 1
3. ถอดชิ้นส่วนและสายเคเบิลต่างๆ ที่กีดขวางการเข้าถึงจัมเปอร์ล้าง CMOS /การกู้คืน
4. ย้ายจัมเปอร์จากตำแหน่งมาตรฐาน (พิน 1 และพิน 2) ไปยังตำแหน่งการบำรุงรักษา (พิน 2 และพิน 3)
5. ติดตั้งชิ้นส่วนและสายเคเบิลที่ถอดออกมากลับเข้าที่
6. ติดตั้งฝาครอบคอมพิวเตอร์กลับเข้าที่ และเชื่อมต่อสายเคเบิลที่ปลดออกอีกครั้ง ดู บทที่ 7 “การติดตั้งหรือการ เปลี่ยนฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 79
7. เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และใส่แผ่นดิสก์การอัปเดต BIOS ในไดรฟ์แบบออปติคัล รอสักครู่ กระบวนการกู้คืนจะ เริ่มต้นขึ้น หลังจากการกระบวนการกู้คืนเสร็จสมบูรณ์ คอมพิวเตอร์ของคุณจะปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ
หมายเหตุ: หากคอมพิวเตอร์ไม่เริ่มต้นระบบจากแผ่นดิสก์ ให้เลือกแผ่นดิสก์เป็นอุปกรณ์สำหรับเริ่มต้นระบบ ดู “การเลือกอุปกรณ์เริ่มต้นระบบชั่วคราว” บนหน้าที่ 49
8. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1–3
9. ย้ายจัมเปอร์ล้าง CMOS /การกู้คืนกลับไปที่ตำแหน่งมาตรฐาน (พิน 1 และพิน 2)
10. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 5–6 จากนั้น เปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ
บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง 51

การกำหนดค่า RAID

บทนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และกำหนดค่า RAID สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ RAID สามารถ เปิดใช้งานได้โดย Intel Rapid Storage Technology enterprise (RSTe) หรือ AVAGO MegaRAID BIOS ทั้งนี้ขึ้นอยู่ กับรุ่นคอมพิวเตอร์
หมายเหตุ: ข้อมูลการกำหนดค่า RAID ที่อธิบายไว้ในบทนี้จะใช้ได้เฉพาะกับระบบ Windows เท่านั้น สำหรับข้อมูล เกี่ยวกับการกำหนดค่า RAID ในระบบ Linux
บทนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อต่อไปนี้:
“การกำหนดค่า RAID ด้วย Intel RSTe” บนหน้าที่ 52
“การตั้งค่า RAID แบบด่วนโดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS ” บนหน้าที่ 55
®
ให้ติดต่อผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ Linux

การกำหนดค่า RAID ด้วย Intel RSTe

หากคอมพิวเตอร์มาพร้อมกับ Intel RSTe คุณสามารถปฏิบัติตามส่วนด้านล่างนี้เพื่อกำหนดค่า RAID ด้วย Intel RSTe
หมวดนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อต่อไปนี้:
“การติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ SATA” บนหน้าที่ 52
“การกำหนดค่าฟังก์ชันการทำงาน SATA RAID ด้วยโปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe” บนหน้าที่ 53
การติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ SATA
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ได้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ SATA เป็นจำนวนขั้นต่ำไว้สำหรับระดับที่สนับสนุน RAID ต่อไปนี้:
RAID ระดับ 0 - ดิสก์อาร์เรย์แบบสไทรพ์
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 0 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อย่างน้อยสองตัว
ขนาดสไทรพ์ที่สนับสนุน: 4 KB, 8 KB, 16 KB, 32 KB, 64 KB หรือ 128 KB
ประสิทธิภาพดีขึ้นโดยไม่มีความทนทานต่อความเสียหาย
RAID ระดับ 1 - ดิสก์อาร์เรย์แบบมิเรอร์
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 1 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สองตัว
ประสิทธิภาพในการอ่านดีขึ้นและการซ้ำซ้อน 100%
52 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
RAID ระดับ 10 - ดิสก์อาร์เรย์แบบสไทรพ์และแบบมิเรอร์ (การใช้ RAID ระดับ 0 และ RAID ระดับ 1 รวมกัน)
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 10 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สี่ตัว
ขนาดสไทรพ์ที่สนับสนุน: 4 KB, 8 KB, 16 KB, 32 KB หรือ 64 KB
RAID ระดับ 5 - ดิสก์อาร์เรย์แบบสไทรพ์ระดับบล็อกที่มีพาริตี้แบบกระจาย
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 5 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อย่างน้อยสามตัว
ขนาดสไทรพ์ที่สนับสนุน: 4 KB, 8 KB, 16 KB, 32 KB หรือ 64 KB
ประสิทธิภาพและความทนทานต่อความเสียหายดีขึ้น
การกำหนดค่าฟังก์ชันการทำงาน SATA RAID ด้วยโปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe
ส่วนนี้จะอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดค่าฟังก์ชันการทำงาน SATA RAID ด้วยโปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe
หมายเหตุ: โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe ถือว่าคอมพิวเตอร์ของคุณติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์มากกว่า หนึ่งตัว ดังนั้น หากติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ไว้เพียวตัวเดียวในคอมพิวเตอร์ ข้อมูลต่อไปนี้จะใช้ไม่ได้
หมวดนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อต่อไปนี้:
“การเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe” บนหน้าที่ 53
“การสร้างไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe” บนหน้าที่ 54
“การลบไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe” บนหน้าที่ 54
“การรีเซ็ตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เป็นแบบไม่ใช่ RAID” บนหน้าที่ 55
การเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe
ส่วนนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe
ระหว่างเริ่มต้นระบบคอมพิวเตอร์ ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ กด Ctrl+I เพื่อเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนด ค่า Intel RSTe
ตัวเลือกสี่ตัวต่อไปนี้จะแสดงขึ้นหลังจากเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe:
1. Create RAID Volume
2. Delete RAID Volume
3. Reset Disks to Non RAID
4. Exit
บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง 53
กดแป้นลูกศรขึ้นและลงเพื่อเลือกตัวเลือก กด Enter เพื่อเข้าสู่เมนูสำหรับตัวเลือกที่เลือก กด Esc เพื่ออกจาก โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe หรือเลือก Exit แล้วกด Enter เพื่อออกจากโปรแกรมการเข้าถึงการกํา หนดค่า Intel RSTe
การสร้างไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe
ส่วนนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe เพื่อสร้างไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID
ในการสร้างไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe ดู “การเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe” บนหน้าที่ 53
2. กดแป้นลูกศรขึ้นและลงเพื่อเลือก Create RAID Volume แล้วกด Enter เพื่อดูหน้าต่าง สร้างเมนูไดรฟ์ข้อมูล
3. ตัวเลือกห้าตัวต่อไปนี้จะแสดงขึ้น กดแป้นลูกศรขึ้นและลงเพื่อเลือกตัวเลือก หลังจากคุณกำหนดค่าตัวเลือก ให้ กด Tab หรือ Enter เพื่อไปยังตัวเลือกถัดไป
a. Name: ชื่อไดรฟ์ข้อมูล คุณสามารถใช้ชื่อเริ่มต้นหรือพิมพ์ชื่อที่ต้องการ b. RAID Level: คุณสามารถเปลี่ยนระดับ RAID ให้เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
RAID Level 0
RAID Level 1
RAID Level 10
RAID Level 5
c. Disks: กด Enter เพื่อเข้าสู่หน้าต่าง เมนูเลือกดิสก์ ทำตามคำแนะนำด้านล่างของเมนูเพื่อเลือกฮาร์ดดิสก์
ไดรฟ์ แล้วกด Enter เพื่อทำการกำหนดค่าให้เสร็จสมบูรณ์
d. Strip Size: กดแป้นลูกศรขึ้นและลงเพื่อเลือกขนาดสไทรพ์ e. Capacity: กำหนดความจุของไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID เอง ไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID เริ่มต้นจะเป็นค่าที่มาก
ที่สุด
4. กด Enter เพื่อให้การกำหนดค่าตัวเลือกทั้งห้าแบบเสร็จสิ้น เมื่อได้รับแจ้ง ให้กด Y เพื่อยืนยันการสร้างไดรฟ์ ข้อมูลแบบ RAID ใหม่
5. หลังจากสร้างไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID ใหม่แล้ว ข้อมูลเกี่ยวกับไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID นั้นจะแสดงอยู่ในส่วน DISK/VOLUME INFORMATION ซึ่งจะมีข้อมูลหมายเลข ID, ชื่อ, ระดับ RAID, ขนาดสไทรพ์, ขนาดไดรฟ์ ข้อมูล, สถานะ และข้อมูลที่บอกว่าไดรฟ์นั้นเป็นไดรฟ์ข้อมูลที่สามารถบูตได้หรือไม่
การลบไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe
ส่วนนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe เพื่อลบไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID
ในการลบไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID ให้ดำเนินการดังนี้:
54 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
1. เข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe ดู “การเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe” บนหน้าที่ 53
2. กดแป้นลูกศรขึ้นและลงเพื่อเลือก Delete RAID Volume กด Enter เพื่อเข้าสู่หน้าต่าง ลบเมนูไดรฟ์ข้อมูล
3. กดแป้นลูกศรขึ้นและลงเพื่อเลือกไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID ที่ไม่จำเป็น กด Del เพื่อลบจากรายการ RAID
Volumes
4. เมื่อได้รับแจ้ง ให้กด Y เพื่อยืนยันการลบไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID ที่เลือก
การรีเซ็ตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เป็นแบบไม่ใช่ RAID
ส่วนนี้จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีรีเซ็ตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เป็นแบบไม่ใช่ RAID
ในการรีเซ็ตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เป็นแบบไม่ใช่ RAID ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้:
1. เข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe ดู “การเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า Intel RSTe” บนหน้าที่ 53
2. กดแป้นลูกศรขึ้นและลงเพื่อเลือก Reset Disks to Non-RAID กด Enter เพื่อเข้าสู่หน้าต่าง รีเซ็ตข้อมูล RAID
3. ใช้แป้นลูกศรขึ้นและลงและแป้นเว้นวรรคเพื่อทำเครื่องหมายฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์แต่ละตัวที่จะรีเซ็ต แล้วกด Enter เพื่อทำการเลือกให้เสร็จสมบูรณ์
4. เมื่อได้รับแจ้ง ให้กด Y เพื่อยืนยันการรีเซ็ต
5. หากฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่คุณรีเซ็ตเป็นส่วนหนึ่งของไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID คอมพิวเตอร์อาจตรวจพบว่าไดรฟ์ ข้อมูล RAID ลดความสามารถลง ในกรณีนี้ คุณจะได้รับแจ้งให้เลือกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เพื่อเริ่มต้นกระบวนการ สร้างใหม่
6. เลือกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่มีอยู่ แล้วกด Enter เพื่อเริ่มต้นกระบวนการสร้างใหม่
หมายเหตุ: กด Esc เพื่อยกเลิกกระบวนการสร้างใหม่ และรักษาไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID ให้อยู่ในสถานะที่มี ความสามารถลดลง ในหน้าต่าง เมนูหลัก ใต้ DISK/VOLUME INFORMATION คุณจะเห็นสถานะของไดรฟ์ ข้อมูลแบบ RAID เปลี่ยนไปเป็น Degraded

การตั้งค่า RAID แบบด่วนโดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS

หมายเหตุ:
อะแดปเตอร์ AVAGO MegaRAID SAS และโปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS มี เฉพาะในบางรุ่นเท่านั้น
ขั้นตอนต่อไปนี้ในส่วนนี้มีเจตนาเพื่อแนะนำให้คุณเกี่ยวกับการตั้งค่าฟังก์ชัน RAID พื้นฐานแบบด่วนด้วยอะแดป เตอร์ AVAGO MegaRAID SAS สำหรับการตั้งค่าและการกำหนดค่าขั้นสูงโดยใช้อะแดปเตอร์นี้ โปรดดู คู่มือผู้ใช้ ซอฟต์แวร์ MegaRAID SAS ฉบับสมบูรณ์ที่มีให้ที่ http://support.lenovo.com/en_US/guides-and-manuals/ detail.page?DocID=UM007543
บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง 55
หมวดนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อต่อไปนี้:
“การติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ SATA หรือ SAS” บนหน้าที่ 56
“การเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS” บนหน้าที่ 57
“การสร้างไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS” บน หน้าที่ 57
“การลบไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS” บนหน้าที่ 58
“การตั้งค่าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำรองข้อมูลทดแทนทันที” บนหน้าที่ 59
การติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ SATA หรือ SAS
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ได้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ SATA หรือ SAS เป็นจำนวนขั้นต่ำไว้สำหรับระดับที่ สนับสนุน RAID ต่อไปนี้:
RAID ระดับ 0 - ดิสก์อาร์เรย์แบบสไทรพ์
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 0 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อย่างน้อยหนึ่งตัว
ขนาดสไทรพ์ที่สนับสนุน: 8 KB ถึง 1 MB
ประสิทธิภาพดีขึ้นโดยไม่มีความทนทานต่อความเสียหาย
RAID ระดับ 00 - กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์แบบสแปนที่มีกลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์แบบ RAID 0 เป็นชุด
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 00 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สองหรือสี่ตัว
ขนาดสไทรพ์ที่สนับสนุน: 8 KB ถึง 1 MB
ประสิทธิภาพดีขึ้นโดยไม่มีความทนทานต่อความเสียหาย
RAID ระดับ 1 - ดิสก์อาร์เรย์แบบมิเรอร์
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 1 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สองหรือสี่ตัว
ประสิทธิภาพการอ่านดีขึ้นและการซ้ำซ้อน 100%
RAID ระดับ 10 - การใช้ RAID ระดับ 0 และ RAID ระดับ 1 รวมกัน
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 10 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สี่ตัว
ข้อมูลที่มีการสไทรพ์ข้ามกลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์
มีอัตราการถ่ายโอนข้อมูลทั้งคู่และการซ้ำซ้อนของข้อมูลทั้งหมด
RAID ระดับ 5 - ดิสก์อาร์เรย์แบบสไทรพ์ระดับบล็อกที่มีพาริตี้แบบกระจาย
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 5 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อย่างน้อยสามตัว
56 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ขนาดสไทรพ์ที่สนับสนุน: 8 KB ถึง 1 MB
ประสิทธิภาพและความทนทานต่อความเสียหายดีขึ้น
RAID ระดับ 5 อาจไม่มีให้ใช้ในอะแดปเตอร์ AVAGO MegaRAID บางรุ่น
RAID ระดับ 6 - ดิสก์อาร์เรย์แบบสไทรพ์ระดับบล็อกที่มีพาริตี้แบบกระจายคู่
กลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ RAID ระดับ 6 ที่ประกอบด้วยฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อย่างน้อยสี่ตัว
ขนาดสไทรพ์ที่สนับสนุน: 8 KB ถึง 1 MB
ประสิทธิภาพและความทนทานต่อความเสียหายดีขึ้นซึ่งสามารถต้านทานการสูญเสียของฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สอง
ตัวได้
RAID ระดับ 6 อาจไม่มีให้ใช้ในอะแดปเตอร์ AVAGO MegaRAID บางรุ่น
ต้องแน่ใจว่า:
การ์ดอะแดปเตอร์ AVAGO MegaRAID SAS ได้รับการติดตั้งไว้แล้วในคอมพิวเตอร์ของคุณ
และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์จะเชื่อมต่อกับการ์ดอะแดปเตอร์นี้ ไม่ใช่กับขั้วต่อบนแผงระบบ
การเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS
ส่วนนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS
ในการเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS ให้ดำเนินการดังนี้:
1. ระหว่างเริ่มต้นระบบคอมพิวเตอร์ ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
2. กด Ctrl+H เพื่อเข้าสู่หน้าต่าง CONTROLLER SELECTION
3. เลือกตัวควบคุมที่คุณต้องการกำหนดค่า แล้วคลิก เริ่ม เพื่อเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO
MegaRAID BIOS
การสร้างไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS
ส่วนนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีสร้างไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS
ในการสร้างไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS ให้ดำเนิน การดังนี้:
1. คลิก Configuration Wizard บนหน้าจอหลัก WebBIOS เพื่อเข้าสู่หน้าต่าง การเลือกประเภทการกำหนดค่า
2. กดแป้นลูกศรขึ้นและลงเพื่อเลือกหนึ่งในการกำหนดค่าสามชนิดดังนี้:
บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง 57
Clear Configuration: ล้างการกำหนดค่าที่มีอยู่
New Configuration: ล้างการกำหนดค่าที่มีอยู่และสร้างการกำหนดค่าใหม่
Add Configuration: รักษาการกำหนดค่าการจัดเก็บที่มีอยู่และเพิ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ใหม่ การกำหนดค่า
ใหม่จะไม่ก่อให้เกิดการสูญหายของข้อมูล
3. เลือก Add Configuration แล้วคลิก Next ตัวเลือกสองตัวต่อไปนี้จะแสดงขึ้นในหน้าต่าง วิธีการกำหนดค่า
Manual Configuration: สร้างกลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เสมือน และตั้งค่าพารามิเตอร์ด้วย
ตัวเอง
Automatic Configuration: สร้างการกำหนดค่า RAID ที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ
4. เลือก Manual Configuration แล้วคลิก Next หน้าต่าง Drive Group Definition จะปรากฏขึ้น หากต้องการ
สร้างกลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้:
a. เลือกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์หนึ่งตัวหรือมากกว่าสำหรับกลุ่ม (กด Ctrl ค้างไว้ขณะเลือกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์มากกว่า
หนึ่งตัว)
b. คลิก Add To Array เพื่อย้ายฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่เลือกไปยัง Drive Groups c. คลิก Accept DG เพื่อสร้างกลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์
d. หากต้องการสร้างกลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เพิ่มเติม ให้ทำซ้ำขั้นตอน a ถึง c
5. คลิก Next หน้าต่าง Span Definition จะปรากฏขึ้น เลือกกลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่คุณต้องการเพิ่มไปยังสแปน แล้วคลิก Add to SPAN ทำขั้นตอนนี้ซ้ำจนกระทั่งคุณเลือกกลุ่มฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ทั้งหมดที่ต้องการ
6. คลิก Next หน้าต่าง Virtual Drive Definition จะปรากฏขึ้น เปลี่ยนตัวเลือกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์จากการตั้งค่าเริ่ม ต้นที่แสดงบนหน้าจอไปเป็นการตั้งค่าที่คุณต้องการ คลิก Accept แล้วทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อ กำหนดการตั้งค่าของคุณเอง
7. คลิก Next แล้วหน้าต่าง Preview จะปรากฏขึ้น
8. ตรวจสอบการตั้งค่า แล้วคลิก Accept
9. คลิก Yes เพื่อบันทึกการตั้งค่า
การลบไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS
ส่วนนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีลบไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS
ในการลบไดรฟ์ข้อมูลแบบ RAID โดยใช้โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS ให้ดำเนินการ ดังนี้:
1. เข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS ดู “การเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกํา หนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS” บนหน้าที่ 57
58 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
2. คลิกที่ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เสมือนจริงที่คุณต้องการลบ จากนั้น หน้าต่าง Virtual Drive จะแสดงขึ้น
3. คลิก Delete แล้วคลิก Go
4. คลิก Yes เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณ
การตั้งค่าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำรองข้อมูลทดแทนทันที
ส่วนนี้จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำรองข้อมูลทดแทนทันที
ในการตั้งค่าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำรองข้อมูลทดแทนทันที ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS ดู “การเข้าสู่โปรแกรมการเข้าถึงการกํา หนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS” บนหน้าที่ 57
2. คลิกที่ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่คุณต้องการตั้งค่าเป็นฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำรองข้อมูลทดแทนทันที หน้าต่าง ไดรฟ์ จะ ปรากฏขึ้น
3. เลือก Make Global HSP หรือ Make Dedicated HSP แล้วคลิก Go หน้าจอหลักของโปรแกรมการเข้าถึงการกําหนดค่า AVAGO MegaRAID BIOS จะปรากฏขึ้น ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ที่คุณเลือกจะแสดงรายการเป็นฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สำรองข้อมูลทดแทนทันทีในบานหน้าต่างทางขวา
บทที่ 5. การกำหนดค่าขั้นสูง 59
60 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืน

บทนี้ประกอบด้วยแนวทางแก้ปัญหาสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ ทำตามขั้นตอนในขั้นตอนพื้นฐานสำหรับการแก้ ปัญหาคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วยให้คุณใช้ข้อมูลการแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืนได้อย่างเป็นประโยชน์
“ขั้นตอนพื้นฐานสำหรับแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 61
“การแก้ไขปัญหา” บนหน้าที่ 62
“การวินิจฉัยปัญหา” บนหน้าที่ 73
“ข้อมูลการกู้คืน” บนหน้าที่ 75

ขั้นตอนพื้นฐานสำหรับแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์

ขอแนะนำให้คุณใช้ขั้นตอนต่อไปนี้แก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ที่คุณกำลังประสบ:
1. ต้องแน่ใจว่า: a. สายเคเบิลสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อมีการเชื่อมต่ออย่างถูกต้องและปลอดภัย b. อุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อซึ่งต้องใช้ไฟฟ้า AC เสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าที่มีสายดินอย่างถูกต้อง c. อุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อเปิดใช้งานอยู่ในการตั้งค่า BIOS ของคอมพิวเตอร์ของคุณ โปรดดู “การเปิดใช้
งานหรือปิดใช้งานอุปกรณ์” บนหน้าที่ 44
หากวิธีนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้ดำเนินการขั้นตอนถัดไป
2. ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสเพื่อดูว่าคอมพิวเตอร์ของคุณติดไวรัสหรือไม่ หากโปรแกรมตรวจพบไวรัส ให้ลบไวรัส นั้น หากโปรแกรมป้องกันไวรัสไม่สามารถแก้ปัญหาของคุณได้ ให้ดำเนินการขั้นตอนถัดไป
3. ไปที่ “การแก้ไขปัญหา” บนหน้าที่ 62 และทำตามคำแนะนำตามประเภทปัญหาที่คุณพบ หากคำแนะนำในการ แก้ไขปัญหาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้ดำเนินการขั้นตอนถัดไป
4. เรียกใช้โปรแกรมวินิจฉัย โปรดดู “การวินิจฉัยปัญหา” บนหน้าที่ 73 หากโปรแกรมวินิจฉัยไม่สามารถแก้ ปัญหาของคุณได้ ให้ดำเนินการขั้นตอนถัดไป
5. กู้คืนระบบปฏิบัติการของคุณ โปรดดู “ข้อมูลการกู้คืน” บนหน้าที่ 75
6. หากการดำเนินการเหล่านี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ให้ติดต่อศูนย์บริการลูกค้า Lenovo หากต้องการทราบ รายการหมายเลขโทรศัพท์ฝ่ายสนับสนุนของ Lenovo โปรดไปที่ http://www.lenovo.com/support/phone สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ บริการ และความช่วยเหลือด้านเทคนิค โปรดดูที่ บทที่ 8 “การขอรับข้อมูล ความช่วยเหลือและบริการ” บนหน้าที่ 125
© Copyright Lenovo 2016, 2017 61

การแก้ไขปัญหา

ข้อควรพิจารณา: โปรดอย่าเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือพยายามซ่อมแซมก่อนที่จะอ่านและทำความเข้าใจ “โปรด
อ่านข้อมูลนี้ก่อน: ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย” บนหน้าที่ v
ใช้ข้อมูลการแก้ไขปัญหาเพื่อค้นหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่มีอาการชัดเจน

ปัญหาเกี่ยวกับการเริ่มต้นระบบ

คอมพิวเตอร์ไม่เริ่มต้นระบบเมื่อคุณกดปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง
วิธีแก้ไข:
ต้องแน่ใจว่า:
สายไฟเชื่อมต่อกับด้านหลังของคอมพิวเตอร์และกับเต้ารับไฟฟ้าที่ใช้งานอย่างถูกต้อง
หากคอมพิวเตอร์ของคุณมีสวิตช์เปิดเครื่องรองที่ด้านหลังของเครื่องคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสวิตช์เปิด อยู่
ไฟแสดงสถานะพลังงานที่ด้านหน้าของคอมพิวเตอร์เปิดอยู่
แรงดันไฟฟ้าคอมพิวเตอร์ตรงกับแรงดันไฟฟ้าที่เต้ารับไฟฟ้าสำหรับประเทศหรือภูมิภาคของคุณ
ระบบปฏิบัติการเริ่มต้นระบบไม่สำเร็จ
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลำดับอุปกรณ์สำหรับเริ่มต้นระบบที่ตั้งค่าในโปรแกรม Setup Utility นั้นมีอุปกรณ์ที่มีระบบปฏิบัติ การอยู่ โดยทั่วไป ระบบปฏิบัติการจะอยู่บนไดรฟ์จัดเก็บภายใน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาอ่านรายละเอียดจาก “การเปลี่ยนแปลงลำดับอุปกรณ์การเริ่มต้นระบบอย่างถาวร” บนหน้าที่ 49
คอมพิวเตอร์ส่งเสียงเตือนหลายครั้งก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มต้นระบบ
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีปุ่มกดค้าง
62 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

ปัญหาเกี่ยวกับเสียง

ไม่ได้ยินเสียงบนระบบปฏิบัติการ Windows
วิธีแก้ไข:
หากคุณใช้ลำโพงภายนอกที่มีปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง ตรวจดูให้แน่ใจว่า:
ตั้งค่าปุ่มเปิด/ปิด เครื่องที่ตำแหน่ง เปิด
เชื่อมต่อสายไฟลำโพงเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าที่ต่อลงดินไว้เรียบร้อย
หากลำโพงภายนอกของคุณมีปุ่มควบคุมระดับเสียง ตรวจสอบว่าระดับเสียงไม่ได้ตั้งค่าที่ระดับเสียงเบาเกินไป
คลิกไอคอนระดับเสียงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows บนแถบงาน ตรวจสอบว่าไม่ได้เลือกการตั้งค่าปิดเสียง ลำโพง และปุ่มควบคุมระดับเสียงไม่ได้ตั้งไว้เบาเกินไป
หมายเหตุ: หากไอคอนระดับเสียงไม่แสดงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows ให้เพิ่มไอคอนในพื้นที่การแจ้งเตือน โปรดดูระบบวิธีใช้ของ Windows
สำหรับคอมพิวเตอร์ที่มีแผงเสียงด้านหน้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับเสียงไม่ได้ตั้งอยู่ที่ระดับเบาเกินไป
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลำโพงภายนอกของคุณ (และหูฟัง หากใช้) เชื่อมต่อกับขั้วต่อสัญญาณเสียงในคอมพิวเตอร์ อย่างถูกต้อง สายลำโพงส่วนใหญ่จะมีรหัสสีเพื่อให้ตรงกับขั้วต่อ
หมายเหตุ: เมื่อเชื่อมต่อสายลำโพงภายนอกหรือหูฟังเข้ากับขั้วต่อสัญญาณเสียง ลำโพงภายใน (หากมี) จะถูกปิด ใช้งาน ในกรณีส่วนใหญ่ หากอะแดปเตอร์ติดตั้งอยู่ในช่องเสียบอุปกรณ์เพิ่มเติมช่องใดช่องหนึ่ง ฟังก์ชันเสียงที่ ประกอบอยู่ในแผงระบบจะถูกปิดใช้งาน ดังนั้น คุณต้องใช้ขั้วต่อเสียงบนอะแดปเตอร์เสียง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังเรียกใช้โปรแกรมที่ได้รับการออกแบบสำหรับใช้บนระบบปฏิบัติการ Windows หาก โปรแกรมได้รับการออกแบบให้ทำงานใน DOS โปรแกรมจะไม่ใช้คุณลักษณะเสียงของ Windows ต้องกำหนดค่า โปรแกรมเพื่อใช้การจำลอง Sound Blaster Pro หรือ Sound Blaster
ตรวจสอบว่าไดรเวอร์อุปกรณ์เสียงติดตั้งอย่างถูกต้อง
เสียงมาจากลำโพงภายนอกตัวใดตัวหนึ่ง
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบว่าสายลำโพงเสียบแน่นกับขั้วต่อในคอมพิวเตอร์
โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิกที่ไอคอนระดับเสียงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows บนแถบงาน จากนั้น คลิก
ไอคอนลำโพงที่ด้านบนสุดของการควบคุมระดับเสียง
สำหรับ Windows 10: คลิกขวาที่ไอคอนระดับเสียงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows บนแถบงาน จากนั้นจึง
คลิก เปิดตัวปรับแต่งระดับเสียง แล้วเลือกลำโพงที่ต้องการ
บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืน 63
หมายเหตุ: หากไอคอนระดับเสียงไม่แสดงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows ให้เพิ่มไอคอนในพื้นที่การแจ้งเตือน จากนั้นคลิกแท็บ ระดับ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่าความสมดุลไว้ถูกต้อง

ปัญหาเกี่ยวกับซีดีหรือดีวีดี

ซีดีหรือดีวีดีใช้งานไม่ได้
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไฟและสายสัญญาณเชื่อมต่อกับไดรฟ์แน่นดี
ตรวจสอบว่าใส่แผ่นดิสก์อย่างถูกต้อง โดยหงายด้านที่มีป้ายขึ้น
ตรวจสอบว่าแผ่นดิสก์ที่คุณกำลังใช้อยู่สะอาดดี หากต้องการเช็ดฝุ่นหรือลายนิ้วมือ เช็ดแผ่นดิสก์ให้สะอาดด้วยผ้า ที่นุ่มและสะอาดจากตรงกลางออกมาข้างนอก การเช็ดแผ่นดิสก์ในทิศทางที่เป็นวงกลมอาจก่อให้เกิดการสูญหาย ของข้อมูล
ตรวจสอบว่าแผ่นดิสก์ที่คุณกำลังใช้อยู่ไม่มีรอยขูดขีดหรือเสียหาย ลองใส่แผ่นดิสก์อื่นที่คุณรู้ว่าใช้ได้ดี หากคุณไม่ สามารถอ่านจากแผ่นดิสก์ที่ดีอยู่ แสดงว่าคุณอาจมีปัญหากับไดรฟ์แบบออปติคัล หรือสายเคเบิลที่เชื่อมต่อกับ ไดรฟ์แบบออปติคัลของคุณ
หากคุณมีไดรฟ์ซีดีหรือดีวีดีติดตั้งอยู่หลายไดรฟ์ (หรือทั้งไดรฟ์ซีดีและดีวีดีรวมกัน) ให้ลองใส่แผ่นดิสก์ลงในอีก ไดรฟ์หนึ่ง ในบางกรณี มีเพียงหนึ่งไดรฟ์จากไดรฟ์ต่างๆ เท่านั้นที่เชื่อมต่อกับระบบย่อยของเสียง
สื่อการกู้คืนข้อมูลแบบบูตได้ เช่น ซีดี Product Recovery ไม่สามารถใช้เพื่อเริ่มการทำงานคอมพิวเตอร์ของ คุณได้
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่าไดรฟ์ซีดีหรือดีวีดีเป็นอันดับแรกในลำดับรายการบูตในโปรแกรม Setup Utility โปรดดู “การเลือกอุปกรณ์เริ่มต้นระบบชั่วคราว” บนหน้าที่ 49 สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการดูและการเปลี่ยนแปลงลำดับการเริ่ม ต้นระบบ
หมายเหตุ: ในคอมพิวเตอร์บางรุ่น ลำดับการเริ่มต้นระบบจะมีการกำหนดไว้อย่างถาวรและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
จอมืดแสดงขึ้นแทนที่จะเป็นวิดีโอดีวีดี
วิธีแก้ไข:
เริ่มการทำงานโปรแกรมเครื่องเล่นดีวีดีใหม่
ลองใช้ความละเอียดของหน้าจอหรือความละเอียดของสีที่ต่ำกว่า
ปิดไฟล์ใดๆ ที่เปิดอยู่ แล้วเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่
64 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ภาพยนต์ดีวีดีไม่เล่น
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบว่าผิวหน้าของแผ่นดิสก์นั้นสะอาดและไม่มีรอยขีดข่วน
ตรวจสอบแผ่นดิสก์หรือบรรจุภัณฑ์เพื่อดูการเข้ารหัสตามภูมิภาค คุณอาจจำเป็นต้องซื้อแผ่นดิสก์ที่มีการเข้ารหัส สำหรับพื้นที่ที่คุณกำลังใช้คอมพิวเตอร์ของคุณ
ไม่มีเสียงหรือมีเพียงเสียงขาดๆ หายๆ ในขณะที่เล่นภาพยนตร์ดีวีดี
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบการตั้งค่าการควบคุมเสียงในคอมพิวเตอร์และลำโพงของคุณ
ตรวจสอบว่าผิวหน้าของแผ่นดิสก์นั้นสะอาดและไม่มีรอยขีดข่วน
ตรวจสอบการเชื่อมต่อสายเคเบิลทั้งเข้าและออกจากลำโพง
ใช้เมนูดีวีดีสำหรับวิดีโอเพื่อเลือกแทร็กเสียงต่างๆ
การเล่นช้าหรือสะดุด
วิธีแก้ไข:
ปิดการใช้งานโปรแกรมที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัสหรือชุดรูปแบบสำหรับเดสก์ท็อป
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าความละเอียดวิดีโอน้อยกว่า 1152 x 864 พิกเซล
ข้อความที่ระบุว่าแผ่นดิสก์ไม่ถูกต้องหรือไม่พบแผ่นดิสก์จะแสดงขึ้น
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าว่าแผ่นดิสก์อยู่ในไดรฟ์โดยคว่ำด้านที่มันวาวลง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าความละเอียดวิดีโอน้อยกว่า 1152 x 864 พิกเซล
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่ดีวีดีหรือซีดีลงในไดรฟ์แบบออปติคัลที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น อย่าใส่ดีวีดีลงในไดรฟ์ที่ ใส่ได้เฉพาะซีดี

ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว

ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวหมายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้นและเกิดซ้ำได้ยาก
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายเคเบิลและสายไฟทั้งหมดเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อแน่นดีแล้ว
บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืน 65
ตรวจสอบดูว่าเมื่อคอมพิวเตอร์เปิด ตะแกรงพัดลมไม่มีสิ่งกีดขวาง (มีอากาศไหลเวียนรอบๆ ตะแกรง) และพัดลม ทำงาน หากมีสิ่งกีดขวางอากาศ หรือพัดลมไม่ทำงาน คอมพิวเตอร์อาจร้อนเกินไป
หากมีการติดตั้งอุปกรณ์ Small Computer System Interface (SCSI) ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ภายนอกล่าสุดใน แต่ละสาย SCSI ถอดออกอย่างถูกต้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูเอกสาร SCSI ของคุณ

ปัญหาเกี่ยวกับไดรฟ์จัดเก็บ

ไดรฟ์จัดเก็บบางส่วนหรือทั้งหมดหายไปจากโปรแกรม Setup Utility
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายสัญญาณและสายไฟสำหรับไดรฟ์จัดเก็บทั้งหมดเชื่อมต่อกันอย่างถูกต้อง
หากคอมพิวเตอร์ติดตั้งไดรฟ์จัดเก็บ SAS ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการเชื่อมต่ออะแดปเตอร์ AVAGO MegaRAID SAS อย่างถูกต้อง
คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเริ่มต้นระบบจากไดรฟ์จัดเก็บที่ถูกต้อง หรือข้อความ “ไม่พบระบบปฏิบัติการ” แสดง ขึ้น
วิธีแก้ไข:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายสัญญาณและสายไฟสำหรับไดรฟ์จัดเก็บทั้งหมดเชื่อมต่อกันอย่างถูกต้อง
ตรวจดูให้แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์เริ่มต้นระบบจากไดรฟ์จัดเก็บที่ถูกต้อง ตั้งค่าไดรฟ์จัดเก็บที่มีระบบปฏิบัติการอยู่ให้ เป็นอุปกรณ์สำหรับเริ่มต้นระบบอันดับแรกในโปรแกรม Setup Utility โปรดดู “การเปลี่ยนแปลงลำดับอุปกรณ์ การเริ่มต้นระบบอย่างถาวร” บนหน้าที่ 49
หมายเหตุ: ในบางกรณี ไดรฟ์จัดเก็บที่มีระบบปฏิบัติการอาจจะชำรุดหรือเสียหาย หากเกิดปัญหานี้ขึ้น ให้เปลี่ยน ไดรฟ์จัดเก็บ โปรดดู บทที่ 7 “การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 79

ปัญหาเกี่ยวกับ Ethernet LAN

คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Ethernet LAN
วิธีแก้ไข:
เชื่อมต่อสายจากขั้วต่อ Ethernet ไปยังขั้วต่อ RJ45 ของฮับ
เปิดใช้งานคุณลักษณะ Ethernet ในโปรแกรม Setup Utility โปรดดู “การใช้โปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
เปิดใช้งานอะแดปเตอร์ Ethernet LAN
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
66 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม
สำหรับ Windows 10: คลิก ระบบ Windows แผงควบคุม
3. ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้วคลิก ศูนย์เครือข่ายและการใช้ร่วมกัน
เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าอะแดปเตอร์
4. คลิกขวาที่ไอคอนอะแดปเตอร์ Ethernet LAN แล้วคลิก เปิดใช้งาน
อัปเดตหรือติดตั้งไดรเวอร์ Ethernet LAN ใหม่ โปรดดู “ปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ของคุณเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ” บนหน้าที่ 32
ติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบเครือข่ายทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมเครือข่ายของคุณ ตรวจสอบกับผู้ดูแลระบบ LAN ของคุณเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ระบบเครือข่ายที่จำเป็น
ตั้งค่าการสื่อสารสองทิศทางแบบเดียวกันให้กับพอร์ตสวิตช์และอะแดปเตอร์ หากคุณกำหนดค่าอะแดปเตอร์แบบ การสื่อสารสองทิศทางเต็มอัตรา ให้ตรวจสอบว่าพอร์ตสวิทช์ก็มีการกำหนดค่าแบบการสื่อสารสองทิศทางเต็มอัตรา ด้วย การตั้งค่าโหมดการสื่อสารสองทิศทางอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง เกิดการสูญหายของข้อมูล หรือการเชื่อมต่อล้มเหลว
เมื่อใช้คอมพิวเตอร์รุ่น Gigabit Ethernet ที่ความเร็ว 1000 Mbps และการเชื่อมต่อ Ethernet LAN ล้มเหลว หรือเกิดข้อผิดพลาด
วิธีแก้ไข:
เชื่อมต่อสายเคเบิลเครือข่ายกับขั้วต่อ Ethernet โดยใช้สายประเภทที่ 5 และฮับ/สวิตช์ 100 BASE-T (ไม่ใช่ 100 BASE-X)
คอมพิวเตอร์รุ่น Gigabit Ethernet ควรเชื่อมต่อกับเครือข่ายด้วยที่ความเร็ว 1000 Mbps แต่เชื่อมต่อได้ที่ ความเร็ว 100 Mbps เท่านั้น
วิธีแก้ไข:
ลองเปลี่ยนสายเคเบิล
ตั้งค่าให้อุปกรณ์ที่เชื่อมโยงกันแลกเปลี่ยนข้อมูลกันโดยอัตโนมัติ
ตั้งค่าสวิตช์ตรงตามมาตรฐาน 802.3ab (กิกะบิตบนสายทองแดง)
คุณลักษณะ Wake On LAN ใช้งานไม่ได้
วิธีแก้ไข:
เปิดใช้งานคุณลักษณะ Wake on LAN ในโปรแกรม Setup Utility โปรดดู “การใช้โปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืน 67

ปัญหาเกี่ยวกับ LAN ไร้สาย

หมายเหตุ: คุณลักษณะ LAN ไร้สายมีมาให้เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น
คุณลักษณะ LAN ไร้สายใช้งานไม่ได้
วิธีแก้ไข:
เปิดใช้งานคุณลักษณะ LAN ไร้สายในโปรแกรม Setup Utility โปรดดู “การใช้โปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
สำหรับ Windows 10 เปิดใช้งานคุณลักษณะ LAN ไร้สายในการตั้งค่า Windows คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
แล้วคลิก การตั้งค่า เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต Wi-Fi เปิดคุณลักษณะ Wi-Fi
เปิดใช้งานอะแดปเตอร์ LAN ไร้สาย
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม
สำหรับ Windows 10: คลิก ระบบ Windows แผงควบคุม
3. ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้วคลิก ศูนย์เครือข่ายและการใช้ร่วมกัน
เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าอะแดปเตอร์
4. คลิกขวาที่ไอคอนอะแดปเตอร์ LAN ไร้สาย แล้วคลิก เปิดใช้งาน
อัปเดตหรือติดตั้งไดรเวอร์ LAN ไร้สายใหม่ โปรดดู “ปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ของคุณเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ” บน หน้าที่ 32

ปัญหาเกี่ยวกับ Bluetooth

หมายเหตุ: คุณลักษณะ Bluetooth มีมาให้เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น
คุณลักษณะ Bluetooth ใช้งานไม่ได้
วิธีแก้ไข:
เปิดใช้งานคุณลักษณะ Bluetooth ในโปรแกรม Setup Utility โปรดดู “การใช้โปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
โปรดดำเนินการดังต่อไปนี้เพื่อเปิดใช้งานอุปกรณ์ Bluetooth ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของ Windows ของคุณด้วย:
สำหรับ Windows 7:
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม คลิกขวา คอมพิวเตอร์ แล้วคลิก คุณสมบัติ
2. คลิก ตัวจัดการอุปกรณ์ พิมพ์รหัสผ่านผู้ดูแลระบบ หรือให้ข้อมูลยืนยันเมื่อได้รับข้อความ
68 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
3. ขยาย วิทยุแบบ Bluetooth เพื่อแสดงอุปกรณ์ Bluetooth จากนั้น คลิกขวาที่อุปกรณ์ Bluetooth แต่ละรายการ แล้วคลิก เปิดใช้งาน
4. ขยาย อะแดปเตอร์เครือข่าย จากนั้น คลิกขวาที่อุปกรณ์ Bluetooth แต่ละรายการ แล้วคลิก เปิดใช้
งาน
สำหรับ Windows 10:
1. คลิกขวาที่ปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูบริบทเริ่ม
2. คลิก ตัวจัดการอุปกรณ์ พิมพ์รหัสผ่านผู้ดูแลระบบ หรือให้ข้อมูลยืนยันเมื่อได้รับข้อความ
3. ขยาย Bluetooth เพื่อแสดงอุปกรณ์ Bluetooth จากนั้น คลิกขวาที่อุปกรณ์ Bluetooth แต่ละรายการ แล้วคลิก เปิดใช้งานอุปกรณ์
4. ขยาย อะแดปเตอร์เครือข่าย จากนั้น คลิกขวาที่อุปกรณ์ Bluetooth แต่ละรายการ แล้วคลิก เปิดใช้
งานอุปกรณ์
หากต้องการเปิดวิทยุแบบ Bluetooth บน Windows 10 ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้:
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. คลิก การตั้งค่า อุปกรณ์ Bluetooth และอุปกรณ์อื่น
3. เปิดสวิตช์ Bluetooth เพื่อเปิดใช้งานคุณลักษณะ Bluetooth
อัปเดตหรือติดตั้งไดรเวอร์ Bluetooth ใหม่ โปรดดู “ปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ของคุณเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ” บน หน้าที่ 32
ไม่มีเสียงจากชุดหูฟังหรือหูฟัง Bluetooth
วิธีแก้ไข:
ตั้งค่าชุดหูฟังหรือหูฟัง Bluetooth เป็นอุปกรณ์เริ่มต้น
1. ออกจากแอปพลิเคชันที่ใช้อุปกรณ์เสียง (เช่น Windows Media Player)
2. คลิกขวาที่ไอคอนระดับเสียงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows บนแถบงาน
หมายเหตุ: หากไอคอนระดับเสียงไม่แสดงในพื้นที่การแจ้งเตือน Windows ให้เพิ่มไอคอนในพื้นที่การแจ้ง เตือน ดูระบบวิธีใช้ Windows
3. คลิก อุปกรณ์การเล่น
4. หากคุณใช้โปรไฟล์ Headset เลือก อุปกรณ์เสียงแฮนด์ฟรีแบบ Bluetooth แล้วคลิก ตั้งเป็นค่าเริ่มต้น หากคุณใช้โปรไฟล์ AV เลือก เสียงแบบสเตอริโอ แล้วคลิก ตั้งเป็นค่าเริ่มต้น
5. คลิก ตกลง
บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืน 69

ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพ

มีไฟล์ที่มีการแยกส่วนมากเกินไปบนไดรฟ์จัดเก็บ
วิธีแก้ไข:
ใช้คุณลักษณะการจัดเรียงข้อมูลบนดิสก์ใหม่หรือการปรับดิสก์ให้เหมาะสมที่สุดของ Windows เพื่อล้างข้อมูลไฟล์
หมายเหตุ: ขั้นตอนการจัดเรียงดิสก์อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับความจุของไดรฟ์จัดเก็บ และจำนวนข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในไดรฟ์จัดเก็บ
1. ปิดโปรแกรมและหน้าต่างที่เปิดอยู่
2. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
3. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก คอมพิวเตอร์
สำหรับ Windows 10: คลิก ระบบ Windows File Explorer พีซีเครื่องนี้
4. คลิกขวาที่ไดรฟ์ C แล้วคลิก คุณสมบัติ
5. คลิกแท็บ เครื่องมือ
6. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก จัดเรียงข้อมูลเดี๋ยวนี้ เลือกไดรฟ์ที่ต้องการ แล้วคลิก จัดเรียงข้อมูลบนดิสก์
สำหรับ Windows 10: คลิก ปรับให้เหมาะสม เลือกไดรฟ์ที่ต้องการ แล้วคลิก ปรับให้เหมาะสม
7. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
มีพื้นที่ว่างไดรฟ์จัดเก็บไม่เพียงพอ
วิธีแก้ไข:
เพิ่มพื้นที่ว่างไดรฟ์จัดเก็บ
ลบรายการในโฟลเดอร์กล่องจดหมายเข้า รายการที่ถูกส่ง และรายการที่ถูกลบในแอปพลิเคชันอีเมลของคุณเป็น ประจำ
ล้างข้อมูลไดรฟ์ C
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก คอมพิวเตอร์
70 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
สำหรับ Windows 10: คลิก ระบบ Windows File Explorer พีซีเครื่องนี้
3. คลิกขวาที่ไดรฟ์ C แล้วคลิก คุณสมบัติ
4. ตรวจสอบจำนวนพื้นที่ว่าง แล้วคลิก การล้างข้อมูลบนดิสก์
5. รายการของประเภทไฟล์ที่ไม่จำเป็นจะปรากฏขึ้น เลือกแต่ละประเภทหมู่ไฟล์ที่คุณต้องการลบ แล้วคลิก
ตกลง
ปิดคุณลักษณะ Windows หรือเอาโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออก
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. โปรดทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้ตามเวอร์ชัน Windows ที่คุณใช้:
สำหรับ Windows 7: คลิก แผงควบคุม
สำหรับ Windows 10: คลิก ระบบ Windows แผงควบคุม
3. ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้วคลิก โปรแกรมและคุณลักษณะ
4. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
ในการปิดคุณลักษณะ Windows คลิก เปิดหรือปิดคุณลักษณะของ Windows ทำตามคำแนะนำบน
หน้าจอ
ในการเอาโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออก ให้เลือกโปรแกรมที่คุณต้องการเอาออก แล้วคลิก ถอนการติด
ตั้ง/เปลี่ยนแปลง หรือ ถอนการติดตั้ง
มีพื้นที่ว่างหน่วยความจำไม่เพียงพอ
วิธีแก้ไข:
คลิกขวาที่พื้นที่ว่างบนแถบงาน แล้วเปิดตัวจัดการงาน จากนั้น ทำงานที่คุณไม่ได้ดำเนินการให้จบ
ติดตั้งโมดูลหน่วยความจำเพิ่มเติม โปรดดู “การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 81 หากต้องการซื้อ โมดูลหน่วยความจำ ให้ไปที่:
http://www.lenovo.com

ปัญหาเกี่ยวกับขั้วต่ออนุกรม

ไม่สามารถเข้าใช้งานขั้วต่ออนุกรมได้
วิธีแก้ไข:
เชื่อมต่อสายเคเบิลอนุกรมจากขั้วต่ออนุกรมบนคอมพิวเตอร์ไปยังอุปกรณ์แบบอนุกรม หากอุปกรณ์อนุกรมมีสาย ไฟของอุปกรณ์เอง ให้เชื่อมต่อสายไฟของอุปกรณ์ไปยังเต้ารับไฟฟ้าที่มีสายดิน
เปิดอุปกรณ์อนุกรม แล้วให้อุปกรณ์ออนไลน์ไว้
บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืน 71
ติดตั้งโปรแกรมทั้งหมดที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อนุกรม ให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมในเอกสารที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อนุกรม
หากคุณเพิ่มอะแดปเตอร์ขั้วต่ออนุกรมหนึ่งรายการ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าติดตั้งอะแดปเตอร์ถูกต้อง

ปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ USB

อุปกรณ์ USB ไม่สามารถเข้าถึงได้
วิธีแก้ไข:
เชื่อมต่อสาย USB จากขั้วต่อ USB ไปยังอุปกรณ์ USB หากอุปกรณ์ USB มีสายไฟของอุปกรณ์เอง ให้เชื่อมต่อ สายไฟของอุปกรณ์ไปยังเต้ารับไฟฟ้าที่มีสายดิน
เปิดอุปกรณ์ USB แล้วให้อุปกรณ์ออนไลน์ไว้
ติดตั้งโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์หรือโปรแกรมที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ USB ให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมในเอกสารที่มาพร้อม กับอุปกรณ์ USB
ตัดการเชื่อต่อและเชื่อมต่อขั้วต่อ USB อีกครั้งเพื่อรีเซ็ตอุปกรณ์ USB
ไม่สามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 จากไดรฟ์แบบออปติคัลภายนอกหรือจากอุปกรณ์ USB ภายนอกได้
วิธีแก้ไข:
ไปที่ https://support.lenovo.com/us/en/documents/ht104142 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และไดรเวอร์

สำหรับบางโปรแกรม ไม่สามารถเรียงลำดับวันที่ได้ถูกต้อง
วิธีแก้ไข:
บางโปรแกรมที่พัฒนาก่อนปี 2000 ใช้เพียงเลขสองหลักสุดท้ายของปีในการเรียงลำดับวันที่ โดยสมมติว่าสองหลักแรก คือ 19 โปรแกรมจึงไม่สามารถเรียงลำดับปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง โปรดตรวจสอบกับผู้ผลิตซอฟต์แวร์ของคุณเพื่อดูว่ามี การอัปเดตใดๆ หรือไม่ ผู้ผลิตซอฟต์แวร์จำนวนมากให้บริการอัปเดตจากเวิลด์ไวด์เว็บ
โปรแกรมบางโปรแกรมไม่ทำงานตามที่คาดไว้
วิธีแก้ไข:
1. ตรวจสอบดูว่าปัญหามีสาเหตุมาจากโปรแกรมหรือไม่
a. ตรวจดูให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์สามารถทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ของคุณได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู
ข้อมูลที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์
72 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
b. ตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์อื่นทำงานบนคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างถูกต้อง
c. ตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์ที่คุณกำลังใช้งานทำงานได้บนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น
2. หากปัญหาเกิดจากโปรแกรม:
โปรดดูที่เอกสารที่มาพร้อมกับโปรแกรม หรือระบบวิธีใช้ของโปรแกรมสำหรับข้อมูลการแก้ไขปัญหา
อัปเดตโปรแกรม โปรดดู “ปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ของคุณเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ” บนหน้าที่ 32
ถอนการติดตั้งโปรแกรม แล้วติดตั้งใหม่ หากต้องการดาวน์โหลดโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่ก่อนแล้วบน คอมพิวเตอร์ของคุณ โปรดไปที่ http://www.lenovo.com/support และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
อุปกรณ์ทำงานไม่ถูกต้อง เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์
วิธีแก้ไข:
อัปเดตโปรแกรมควบคุมอุปกรณ์ โปรดดู “ปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ของคุณเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ” บนหน้าที่ 32

การวินิจฉัยปัญหา

ปัญหามากมายของคอมพิวเตอร์สามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากผู้อื่น หากคอมพิวเตอร์ของคุณเกิด มีปัญหาขึ้นมา สิ่งแรกที่ต้องศึกษาคือข้อมูลการแก้ไขปัญหาในเอกสารที่ให้มาพร้อมคอมพิวเตอร์ของคุณ หากคุณสงสัย ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ โปรดดูที่เอกสารตลอดจนไฟล์ Readme และระบบข้อมูลวิธีใช้ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติ การหรือโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ThinkStation มาพร้อมกับชุดโปรแกรมวินิจฉัยที่คุณสามารถใช้เป็นตัวช่วยระบุปัญหา เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ได้
การวินิจฉัยปัญหาด้วย Lenovo Solution Center บนระบบปฏิบัติการ Windows 7
Lenovo Solution Center ได้รับการติดตั้งไว้อยู่แล้วบนคอมพิวเตอร์ของคุณ และยังมีให้ดาวน์โหลดที่: http://www.lenovo.com/diags
หมายเหตุ:
หากคุณใช้ระบบปฏิบัติการ Windows อื่นที่ไม่ใช่ Windows 7 คุณสามารถหาข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการวินิจฉัย สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณได้ที่: http://www.lenovo.com/diagnose
หากคุณไม่สามารถแยกหรือแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองหลังจากเปิด Lenovo Solution Center ให้บันทึกและพิมพ์ ไฟล์บันทึกที่โปรแกรมสร้างขึ้น คุณต้องใช้ไฟล์บันทึกข้อมูลเมื่อคุณติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิค ของ Lenovo
บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืน 73
Lenovo Solution Center จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ของคุณ โปรแกรมดังกล่าวประกอบด้วยการทดสอบ วิเคราะห์ปัญหา การรวบรวมข้อมูลของระบบ สถานะความปลอดภัย และข้อมูลการสนับสนุน รวมทั้งคำแนะนำและ เคล็ดลับต่างๆ เพื่อประสิทธิภาพของระบบที่ดีที่สุด
หากคุณกำลังตั้งค่าคอมพิวเตอร์ โปรแกรม Lenovo Solution Center จะแสดงข้อความขอให้คุณสร้างสื่อการกู้คืน ข้อมูล คุณสามารถใช้สื่อการกู้คืนข้อมูลเพื่อคืนค่าไดรฟ์เก็บข้อมูลเป็นการตั้งการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูระบบข้อมูลวิธีใช้ของ Lenovo Solution Center
การวินิจฉัยปัญหาด้วย Lenovo Companion บนระบบปฏิบัติการ Windows 10
Lenovo Companion ได้รับการติดตั้งไว้อยู่แล้วบนคอมพิวเตอร์ของคุณ และยังมีให้ดาวน์โหลดที่: https://shop.lenovo.com/us/en/accessories/software/apps/lenovo-apps/companion/
หมายเหตุ: หากคุณไม่สามารถแยกหรือแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองหลังจากเปิด Lenovo Companion ให้บันทึกและพิมพ์ ไฟล์บันทึกที่โปรแกรมสร้างขึ้น คุณต้องใช้ไฟล์บันทึกข้อมูลเมื่อคุณติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคของ Lenovo
Lenovo Companion รองรับฟังก์ชันการสแกนฮาร์ดแวร์ โปรแกรมดังกล่าวประกอบด้วยการทดสอบวิเคราะห์ปัญหา การรวบรวมข้อมูลของระบบ สถานะความปลอดภัย และข้อมูลการสนับสนุน รวมทั้งคำแนะนำและเคล็ดลับต่างๆ เพื่อ ประสิทธิภาพของระบบที่ดีที่สุด
ข้อมูลการแก้ไขปัญหาหรือโปรแกรมวินิจฉัยอาจจะแจ้งให้ทราบว่าคุณจำเป็นต้องเพิ่มเติมหรือทำการอัปเดตไดรเวอร์ อุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์อื่นๆ คุณสามารถขอรับข้อมูลทางเทคนิคล่าสุดและดาวน์โหลดไดรเวอร์อุปกรณ์ ตลอดจนทำกา รอัปเดตได้จากเว็บไซต์ของเว็บไซต์บริการสนับสนุนของ Lenovo ที่: http://www.lenovo.com/support
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูระบบข้อมูลวิธีใช้ Lenovo Companion
การวินิจฉัยปัญหาด้วย ThinkStation Diagnostics บนระบบปฏิบัติการ Windows 7 และ Windows 10
ThinkStation Diagnostics ได้รับการติดตั้งไว้อยู่แล้วบนคอมพิวเตอร์ของคุณ และยังมีให้ดาวน์โหลดที่: http://www.lenovo.com/diags
หมายเหตุ: หากคุณติดตั้ง Windows 7 ด้วยตัวคุณเอง ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ThinkStation Diagnostics ติดตั้งหลัง Lenovo Solution Center หากต้องมีทั้งสองโปรแกรมอยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกัน
74 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
ThinkStation Diagnostics จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ โปรแกรมจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อฟังก์ชันการตรวจสอบ การวินิจฉัยฮาร์ดแวร์แบบเรียลไทม์ตรวจพบปัญหาใดๆ และโปรแกรมนี้ยังระบุรายละเอียดของปัญหา วิเคราะห์สาเหตุ ที่เป็นไปได้ และให้วิธีแก้ไขปัญหา
การวินิจฉัยฮาร์ดแวร์
ฟังก์ชันการวินิจฉัยฮาร์ดแวร์นี้ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณสามารถตรวจสอบส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ในแบบเรียลไทม์ สำหรับปัญหาหรือข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อตรวจพบปัญหาหรือ ข้อผิดพลาด ข้อมูลการวินิจฉัยฮาร์ดแวร์จะแสดงในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งดังต่อไปนี้:
หากมีการติดตั้งแอปพลิเคชัน ThinkStation Diagnostics และแอปพลิเคชันกำลังทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์ของ คุณ ข้อความแสดงปัญหาหรือข้อผิดพลาดจะปรากฎในบริเวณการแจ้งเตือนของ Windows ให้ไปที่ ThinkStation Diagnostics สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและวิธีแก้ไขที่แนะนำ
หากไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชัน ThinkStation Diagnostics หรือไม่ได้ทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ รหัสข้อผิด พลาดจะแสดงบนจอแสดงผลการวินิจฉัยสี่หลัก (มีอยู่บนบางรุ่น) ที่ด้านหน้าของคอมพิวเตอร์ สำหรับข้อมูลโดย ละเอียด ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:
ตรวจสอบรหัสข้อผิดพลาดที่:
http://thinkworkstationsoftware.com/diags.html
หากแอปพลิเคชัน Lenovo PC Diagnostics ได้รับการติดตั้งในสมาร์ทโฟนของคุณ ให้ใช้แอปพลิเคชันนี้ใน
การโอนย้ายรหัสข้อผิดพลาดจากคอมพิวเตอร์ไปยังสมาร์ทโฟนเพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดแอป พลิเคชันได้ทั้งใน Google Play และ iTunes App Store
ฟังก์ชันการวินิจฉัยฮาร์ดแวร์จะเปิดใช้งานบนคอมพิวเตอร์ของคุณตามค่าเริ่มต้น หากต้องการปิดใช้ฟังก์ชันนี้ ให้ ดำเนินการดังนี้:
1. เปิดโปรแกรม Setup Utility ดู “การเปิดโปรแกรม Setup Utility” บนหน้าที่ 43
2. จากอินเทอร์เฟซหลัก ให้เลือก Advanced Diagnostics แล้วกด Enter
3. เลือก Real-time Diagnostics Monitoring และกด Enter จากนั้นเลือก Disabled และกด Enter
4. กด F10 หรือ Fn+F10 (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าแป้นพิมพ์) เพื่อบันทึกการตั้งค่าและออกจากโปรแกรม Setup
Utility จากนั้น เลือก Yes ในหน้าต่างที่แสดง แล้วกดป้อน

ข้อมูลการกู้คืน

ส่วนนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีกู้คืนระบบปฏิบัติการ
หมายเหตุ: หากอุปกรณ์ทำงานผิดปกติหลังจากการกู้คืนระบบปฏิบัติการ ให้อัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ โปรดดู “ปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ของคุณเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ” บนหน้าที่ 32
บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืน 75

ข้อมูลการกู้คืนสำหรับ Windows 7

ในการกู้คืนระบบปฏิบัติการ Windows 7 ให้ใช้วิธีแก้ปัญหาดังนี้:
ใช้วิธีแก้ปัญหาการกู้คืน Windows
ใช้การคืนค่าระบบเพื่อคืนค่าไฟล์ระบบ และการตั้งค่าเป็นจุดก่อนหน้า
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. คลิก แผงควบคุม ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้วคลิก การกู้คืน
เปิดการคืนค่าระบบ
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
ใช้สภาพแวดล้อมการกู้คืน Windows โดยดำเนินการดังต่อไปนี้:
หลังจากที่ความพยายามในการบูตล้มเหลวติดกันหลายครั้ง สภาพแวดล้อมการกู้คืน Windows อาจเริ่ม
โดยอัตโนมัติ ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อเลือกวิธีแก้ปัญหาการกู้คืนที่เหมาะสม
เปิดคอมพิวเตอร์หรือเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่ แล้วกดปุ่ม F8 หรือ Fn+F8 (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า
แป้นพิมพ์) ซ้ำๆ จนกว่าหน้าต่างตัวเลือกเริ่มต้นระบบขั้นสูงจะเปิดขึ้น เลือก ซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ กด ป้อน แล้วทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อเลือกวิธีแก้ปัญหาการกู้คืนที่เหมาะสม
ใช้สื่อการกู้คืนที่คุณสร้างขึ้นก่อนหน้านั้นด้วยโปรแกรม Recovery Media Creator เพื่อคืนค่าเฉพาะไดรฟ์ C หรือ ไดรฟ์จัดเก็บทั้งหมดเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
1. เลือกสื่อการกู้คืนเป็นอุปกรณ์การเริ่มต้นระบบ ดู “การเลือกอุปกรณ์เริ่มต้นระบบชั่วคราว” บนหน้าที่ 49
2. ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อเลือกวิธีแก้ปัญหาการกู้คืนที่เหมาะสม
ใช้ชุดดิสก์การกู้คืนที่ได้รับจาก Lenovo เพื่อคืนค่าไดรฟ์จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
หากคอมพิวเตอร์ของคุณมาพร้อมชุดดิสก์การกู้คืน ให้ทำตามคำแนะนำที่มาพร้อมชุดดิสก์
หากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่มีชุดดิสก์การกู้คืน โปรดติดต่อศูนย์บริการลูกค้า Lenovo เพื่อสั่งซื้อชุดดิสก์การกู้
คืน ดู “การติดต่อเรียกบริการ” บนหน้าที่ 127

ข้อมูลการกู้คืนสำหรับ Windows 10

ในการกู้คืนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ให้ใช้วิธีแก้ปัญหาดังนี้:
ใช้วิธีแก้ปัญหาการกู้คืน Windows
ใช้วิธีแก้ปัญหาการกู้คืนในการตั้งค่า Windows
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม
2. คลิก การตั้งค่า การอัปเดตและความปลอดภัย การกู้คืน
76 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
3. เลือกวิธีแก้ปัญหาการกู้คืนที่เหมาะสมด้วยการทำตามคำแนะนำที่ปรากฏบนหน้าจอ
ใช้การคืนค่าระบบเพื่อคืนค่าไฟล์ระบบ และการตั้งค่าเป็นจุดก่อนหน้า
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม แล้วคลิก ระบบ Windows แผงควบคุม
2. ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้วคลิก การกู้คืน เปิดการคืนค่า
ระบบ
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
ใช้เครื่องมือประวัติไฟล์ เพื่อคืนค่าไฟล์ของคุณจากการสำรองข้อมูล
หมายเหตุ: หากคุณใช้เครื่องมือประวัติไฟล์ เพื่อคืนค่าไฟล์จากการสำรองข้อมูล ต้องแน่ใจว่าคุณได้สำรอง ข้อมูลก่อนใช้เครื่องมือแล้ว
1. คลิกปุ่มเริ่ม เพื่อเปิดเมนูเริ่ม แล้วคลิก ระบบ Windows แผงควบคุม
2. ดูแผงควบคุมเป็นไอคอนขนาดใหญ่หรือไอคอนขนาดเล็ก แล้วคลิก ประวัติไฟล์ คืนค่าไฟล์ส่วน
บุคคล
3. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
ใช้สภาพแวดล้อมการกู้คืน Windows โดยดำเนินการดังต่อไปนี้:
หลังจากที่ความพยายามในการบูตล้มเหลวติดกันหลายครั้ง สภาพแวดล้อมการกู้คืน Windows อาจเริ่ม
โดยอัตโนมัติ ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อเลือกวิธีแก้ปัญหาการกู้คืนที่เหมาะสม
เลือกสื่อการกู้คืนที่คุณสร้างขึ้นก่อนหน้านั้นโดยใช้เครื่องมือ Windows เป็นอุปกรณ์การเริ่มต้นระบบ
โปรดดู “การเลือกอุปกรณ์เริ่มต้นระบบชั่วคราว” บนหน้าที่ 49 จากนั้น ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ เพื่อเลือกวิธีแก้ปัญหาการกู้คืนที่เหมาะสม
หมายเหตุ: ในการสร้างสื่อการกู้คืน โปรดดูที่ “การบำรุงรักษาที่ดี” บนหน้าที่ 32
ใช้คีย์ USB การกู้คืนที่ได้รับจาก Lenovo เพื่อคืนค่าไดรฟ์จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
หากคอมพิวเตอร์ของคุณมาพร้อมคีย์ USB การกู้คืน ให้ทำตามคำแนะนำที่มาพร้อมกับคีย์ USB
หากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่มีคีย์ USB การกู้คืน โปรดติดต่อศูนย์บริการลูกค้า Lenovo เพื่อสั่งซื้อคีย์ USB
การกู้คืน โปรดดู “การติดต่อเรียกบริการ” บนหน้าที่ 127
บทที่ 6. การแก้ไขปัญหา การวินิจฉัย และการกู้คืน 77
78 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

บทที่ 7. การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์

บทนี้ประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้:
“การหยิบจับอุปกรณ์ที่ไวต่อไฟฟ้าสถิต” บนหน้าที่ 79
“การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 80
“การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์” บนหน้าที่ 81
“การเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เสร็จสมบูรณ์” บนหน้าที่ 123

การหยิบจับอุปกรณ์ที่ไวต่อไฟฟ้าสถิต

อย่าเปิดหีบห่อที่ใช้ป้องกันไฟฟ้าสถิตซึ่งมีชิ้นส่วนใหม่อยู่ภายในจนกว่าจะถอดชิ้นส่วนที่ชำรุดออกจากคอมพิวเตอร์ และคุณพร้อมที่จะติดตั้งชิ้นส่วนใหม่ แม้ว่าไฟฟ้าสถิตจะไม่เป็นอันตรายกับตัวคุณ แต่ก็สามารถสร้างความเสียหายให้ กับส่วนประกอบและอุปกรณ์เสริมของคอมพิวเตอร์ได้อย่างมาก
เมื่อคุณหยิบจับอุปกรณ์เสริมและส่วนประกอบอื่นๆ ของคอมพิวเตอร์ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยง ความเสียหายจากไฟฟ้าสถิต:
ไม่ควรขยับร่างกายมากนัก เนื่องจากการขยับร่างกายจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตรอบๆ ตัวคุณ
หยิบจับอุปกรณ์เสริมและส่วนประกอบอื่นๆ ของคอมพิวเตอร์อย่างระมัดระวังทุกครั้ง เมื่อหยิบจับการ์ด PCI/PCI­Express, โมดูลหน่วยความจำ, แผงระบบ และไมโครโพรเซสเซอร์ ให้จับที่มุม อย่าสัมผัสแผงวงจรที่ไม่มีอะไรปิด หรือครอบไว้
ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้อื่นสัมผัสอุปกรณ์เสริมและส่วนประกอบอื่นๆ ของคอมพิวเตอร์
ให้นำหีบห่อบรรจุชิ้นส่วนไปสัมผัสกับฝาครอบช่องใส่การ์ดที่เป็นโลหะ หรือพื้นผิวโลหะที่ไม่มีการพ่นสีบน คอมพิวเตอร์เป็นเวลาอย่างน้อยสองวินาที การทำเช่นนี้จะช่วยลดไฟฟ้าสถิตย์จากหีบห่อและร่างกายคุณได้ ก่อนที่ คุณจะติดตั้งหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่
หากเป็นไปได้ ให้หยิบชิ้นส่วนใหม่ออกจากหีบห่อป้องกันไฟฟ้าสถิต และติดตั้งชิ้นส่วนลงในคอมพิวเตอร์ในทันที โดยไม่วางชิ้นส่วนลง หากไม่สามารถทำได้ ให้วางหีบห่อป้องกันไฟฟ้าสถิตบนพื้นผิวระนาบเรียบ แล้ววางชิ้นส่วน ลงบนหีบห่อนั้น
ห้ามวางชิ้นส่วนลงบนฝาครอบคอมพิวเตอร์หรือบนพื้นผิวโลหะ
© Copyright Lenovo 2016, 2017 79

การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์

ข้อควรพิจารณา: โปรดอย่าเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือพยายามซ่อมแซมก่อนที่จะอ่านและทำความเข้าใจ “โปรด
อ่านข้อมูลนี้ก่อน: ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย” บนหน้าที่ v
ข้อควรระวัง:
ก่อนที่คุณจะเปิดฝาครอบคอมพิวเตอร์ ให้ปิดคอมพิวเตอร์และรอสักครู่จนกว่าคอมพิวเตอร์จะเย็นลง
ก่อนติดตั้งหรือถอดส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ในคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเตรียมคอมพิวเตอร์ ของคุณและถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์:
1. ถอดสื่อใดๆ ออกจากไดรฟ์และปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้งหมดและปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้น ถอดสายไฟออกจาก เต้ารับไฟฟ้า และถอดสายเคเบิลทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
2. ปลดล็อคอุปกรณ์ล็อคที่ติดกับฝาครอบคอมพิวเตอร์ ดู “การล็อคคอมพิวเตอร์ของคุณ” บนหน้าที่ 35
3. ถอดสกรูสองตัวที่ยึดฝาครอบคอมพิวเตอร์
4. กดปุ่มปล่อยฝาครอบที่ด้านข้างของคอมพิวเตอร์ และเลื่อนฝาครอบไปด้านหลังของคอมพิวเตอร์เพื่อถอดฝา ครอบออก
รูปภาพ 10. การถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์
80 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410

การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์

ส่วนนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการติดตั้งหรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถขยายขีดความ สามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ และบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณโดยการติดตั้งหรือเปลี่ยนฮาร์ดแวร์
ข้อควรพิจารณา: โปรดอย่าเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือพยายามซ่อมแซมก่อนที่จะอ่านและทำความเข้าใจ “โปรด อ่านข้อมูลนี้ก่อน: ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย” บนหน้าที่ v
หมายเหตุ:
คอมพิวเตอร์ของคุณอาจไม่มีชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์บางชิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของคอมพิวเตอร์
ให้ใช้ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่ Lenovo จัดให้เท่านั้น
ขณะติดตั้งหรือเปลี่ยนอุปกรณ์เสริม ให้ใช้คำแนะนำที่เหมาะสมในส่วนนี้พร้อมกับคำแนะนำที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ เสริม
ในพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วโลก Lenovo จำเป็นต้องส่งคืน CRU ที่ชำรุด ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งคืนนี้จะมาพร้อมกับ CRU หรือสองสามวันหลังจากที่ CRU มาถึง

อุปกรณ์เสริมภายนอก

คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมภายนอกกับคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่น ลำโพง พรินเตอร์ หรือสแกนเนอร์ สำหรับ อุปกรณ์เสริมภายนอกบางชนิด คุณต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมนอกเหนือไปจากการเชื่อมต่อทางกายภาพ เมื่อติดตั้ง อุปกรณ์เสริมภายนอก โปรดดู “มุมมองด้านหน้า” บนหน้าที่ 1 และ “มุมมองด้านหลัง” บนหน้าที่ 3 เพื่อระบุขั้วต่อที่ จำเป็นต้องใช้ จากนั้น ใช้คำแนะนำที่มากับอุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยคุณดำเนินการเชื่อมต่อและติดตั้งซอฟต์แวร์หรือ โปรแกรมควบคุมอุปกรณ์ใดๆ ที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์เสริม

ฝาหน้า

ข้อควรพิจารณา: โปรดอย่าเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือพยายามซ่อมแซมก่อนที่จะอ่านและทำความเข้าใจ “โปรด
อ่านข้อมูลนี้ก่อน: ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย” บนหน้าที่ v
ในการถอดและการติดตั้งฝาหน้าใหม่ ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณ ดู “การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 80
2. ปลดแถบพลาสติกทั้งสามแถบทางด้านซ้าย แล้วหมุนฝาหน้าออกทางด้านนอกเพื่อถอดออกจากคอมพิวเตอร์
บทที่ 7. การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ 81
รูปภาพ 11. การถอดฝาหน้า
3. ในการติดตั้งฝาหน้าใหม่ ให้จัดเรียงแถบพลาสติกทั้งสามแถบที่ด้านขวาของฝาหน้าเป็นแนวเดียวกับช่องใน แชสซี แล้วหมุนฝาหน้าเข้าด้านในจนกว่าจะเข้าที่ทางด้านซ้าย
สิ่งที่ต้องทำถัดไป:
หากต้องการทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์อื่น ให้ไปที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง
ในการติดตั้ง หรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เสร็จเรียบร้อย โปรดไปที่ “การเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เสร็จสมบูรณ์” บนหน้าที่ 123

ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง

ข้อควรพิจารณา: โปรดอย่าเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือพยายามซ่อมแซมก่อนที่จะอ่านและทำความเข้าใจ “โปรด
อ่านข้อมูลนี้ก่อน: ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย” บนหน้าที่ v
หากต้องการเปลี่ยนปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง ให้ทำดังนี้:
1. เตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณ ดู “การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 80
2. ถอดฝาหน้า ดู “ฝาหน้า” บนหน้าที่ 81
3. ค้นหาปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง ดู “ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 5
4. ถอดสายเคเบิลปุ่มเปิด/ปิด เครื่องออกจากขั้วต่อปุ่มเปิด/ปิด เครื่องบนแผงระบบ ดู “ชิ้นส่วนต่างๆ บนแผง ระบบ” บนหน้าที่ 6
82 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
5. ถอดสกรูที่ยึดปุ่มเปิด/ปิด เครื่องกับฝาหน้าออก แล้วจึงถอดปุ่มเปิด/ปิด เครื่องออกจากฝาหน้า
รูปภาพ 12. การถอดปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง
6. จัดตำแหน่งปุ่มเปิด/ปิด เครื่องชิ้นใหม่โดยให้ช่องสกรูของปุ่มเปิด/ปิด เครื่องอยู่ในแนวเดียวกันกับช่องรองรับบน ฝาหน้า แล้วจึงขันสกรูยึดปุ่มเปิด/ปิด เครื่องเข้ากับฝาหน้า
รูปภาพ 13. การติดตั้งปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง
7. เชื่อมต่อสายเคเบิลของปุ่มเปิด/ปิด เครื่องเข้ากับขั้วต่อปุ่มเปิด/ปิด เครื่องบนแผงระบบ ดู “ชิ้นส่วนต่างๆ บน แผงระบบ” บนหน้าที่ 6
8. ติดตั้งฝาหน้าใหม่ ดู “ฝาหน้า” บนหน้าที่ 81
บทที่ 7. การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ 83
สิ่งที่ต้องทำถัดไป:
หากต้องการทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์อื่น ให้ไปที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง
ในการติดตั้ง หรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เสร็จเรียบร้อย โปรดไปที่ “การเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เสร็จสมบูรณ์” บนหน้าที่ 123

การ์ด PCI Express

ข้อควรพิจารณา: โปรดอย่าเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือพยายามซ่อมแซมก่อนที่จะอ่านและทำความเข้าใจ “โปรด
อ่านข้อมูลนี้ก่อน: ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย” บนหน้าที่ v
คอมพิวเตอร์คุณมีช่องเสียบการ์ด PCI Express x4 หนึ่งช่อง ช่องเสียบการ์ด PCI Express x8 หนึ่งช่อง และช่อง เสียบการ์ด PCI Express x16 อีกสองช่อง (การ์ดแสดงผลมีในบางรุ่น)
ในการติดตั้งหรือเปลี่ยนการ์ด PCI Express ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณ ดู “การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 80
2. ที่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์ ให้กดปุ่มปลดล็อค
รูปภาพ 14. การเปิดสลักการ์ด PCI Express
1 เพื่อเปิดสลักการ์ด 2
3. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณติดตั้งหรือเปลี่ยนการ์ด PCI Express:
หากคุณกำลังติดตั้งการ์ด PCI Express ให้ถอดฝาครอบช่องเสียบโลหะที่เหมาะสม
84 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
หากคุณกำลังเปลี่ยนการ์ด PCI Express ตัวเดิม ให้จับการ์ดเดิมที่ติดตั้งอยู่ และค่อยๆ ดึงออกจากช่อง เสียบ
รูปภาพ 15. การถอดการ์ด PCI Express
หมายเหตุ:
a. การ์ดติดตั้งแน่นพอดีกับช่องเสียบ หากจำเป็น ให้ค่อยๆ ขยับการ์ดแต่ละด้านทีละนิดจนกว่าการ์ดจะ
ออกจากช่องเสียบ
b. หากการ์ดยึดไว้กับสลัก ให้กดสลักยึดการ์ดตามที่แสดงเพื่อปลดล็อคสลัก แล้วจับการ์ด และค่อยๆ ดึง
ออกจากช่องเสียบ
รูปภาพ 16. การปลดการ์ดจากสลักยึด
4. นำการ์ด PCI Express ใหม่ออกจากหีบห่อป้องกันไฟฟ้าสถิต
5. ติดตั้งการ์ดใหม่ลงในช่องเสียบที่เหมาะสมบนแผงระบบ ดู “ชิ้นส่วนต่างๆ บนแผงระบบ” บนหน้าที่ 6
หมายเหตุ: หากคุณกำลังติดตั้งการ์ดแสดงผล PCI Express x16 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลิปยึดช่องใส่หน่วย ความจำปิดแล้วก่อนที่คุณจะติดตั้งการ์ดเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนใดๆ ระหว่างการติดตั้ง
6. หมุนสลักการ์ดไปยังตำแหน่งปิดเพื่อยึดการ์ด PCI Express ให้เข้าที่
บทที่ 7. การติดตั้งหรือการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ 85
รูปภาพ 17. การติดตั้งการ์ด PCI Express
สิ่งที่ต้องทำถัดไป:
หากต้องการทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์อื่น ให้ไปที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง
ในการติดตั้ง หรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เสร็จเรียบร้อย โปรดไปที่ “การเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เสร็จสมบูรณ์” บนหน้าที่ 123

การ์ด PCI Express แบบ full-length

ข้อควรพิจารณา: โปรดอย่าเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือพยายามซ่อมแซมก่อนที่จะอ่านและทำความเข้าใจ “โปรด
อ่านข้อมูลนี้ก่อน: ข้อมูลสำคัญด้านความปลอดภัย” บนหน้าที่ v
คอมพิวเตอร์คุณมีช่องเสียบการ์ด PCI Express x4 หนึ่งช่อง ช่องเสียบการ์ด PCI Express x8 หนึ่งช่อง และช่อง เสียบการ์ด PCI Express x16 อีกสองช่อง (การ์ดแสดงผลมีในบางรุ่น)
ในการเปลี่ยนการ์ด PCI Express แบบ full-length ให้ดำเนินการดังนี้:
1. เตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณ ดู “การเตรียมคอมพิวเตอร์ของคุณและการถอดฝาครอบคอมพิวเตอร์” บนหน้าที่ 80
2. วางคอมพิวเตอร์ด้านข้างเพื่อให้เข้าถึงช่องเสียบการ์ด PCI Express ได้ง่ายขึ้น
3. ที่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์ ให้กดปุ่มปลดล็อค
1 เพื่อเปิดสลักการ์ด 2
86 คู่มือผู้ใช้ ThinkStation P410
Loading...